26 มิ.ย. 2563 2,707 5

Cisco เปิดตัวโซลูชั่นตอบรับธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวเข้ากับ “วิถีชีวิตใหม่”

Cisco เปิดตัวโซลูชั่นตอบรับธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวเข้ากับ “วิถีชีวิตใหม่”

หลังจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 องค์กรธุรกิจได้ตระหนักแล้วว่า “การปรับตัว” (Resilience) เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจฟื้นตัว จากการที่องค์กรธุรกิจเคยกำหนดกลยุทธ์ทางด้านดิจิทัลสำหรับระยะเวลา 1-3 ปี ต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและโครงการต่างๆ ภายในเวลาชั่วข้ามคืน ขณะที่ “เทคโนโลยี” ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปกติ หรือสถานการณ์ไม่ปกติก็ตาม

ภาคธุรกิจยังคงต้องหาวิธีการเพื่อให้กิจการไปต่ออย่างไม่สะดุด สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในการใช้เทคโนโลยีท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอน การทำให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง และราบรื่นกลายเป็นภารกิจสำคัญสำหรับผู้บริหารองค์กร ผลการสำรวจความคิดเห็น COVID-19 CFO Pulse Survey ครั้งที่ 5 จากไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) เผยว่าประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) ระบุว่าสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุดในขณะนี้คือ มาตรการและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของที่ทำงาน (87%) เพราะพนักงานเริ่มกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศตามปกติ

ในวันที่ไม่ปกติ ธุรกิจที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างยืดหยุ่นเป็นธุรกิจที่ได้ไปต่อ และไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรก็ตาม การบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด

Cisco จัดงาน Cisco Live! Virtual Press Briefing ผ่านแอพลิเคชั่น WebEx Meet กับ วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน

ซิสโก้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ รองรับบุคลากรและสถานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานรวมเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวให้เข้ากับ “วิถีชีวิตใหม่”

  • ตอบโจทย์ผู้บริหารองค์กรธุรกิจที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบไอทีให้ทันสมัย ช่วยให้การทำงานแบบเว้นระยะห่างทางสังคมในสถานที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • โซลูชั่นใหม่รองรับการทำงานจากที่บ้านอย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
  • โซลูชั่นใหม่ช่วยให้โรงพยาบาล และสถานศึกษาปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่

ซิสโก้ได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ที่มุ่งเน้นความยืดหยุ่นของธุรกิจ (Business Resiliency) เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ  ท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอน การจัดการดูแลธุรกิจให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นกลายเป็นภารกิจสำคัญสำหรับผู้บริหารองค์กรธุรกิจ  จากผลการสำรวจความคิดเห็น PwC COVID-19 CFO Pulse Survey ครั้งที่ 5 ผู้บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) ระบุว่าสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุด(87%) คือ มาตรการและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของที่ทำงานเมื่อพนักงานเริ่มกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศตามปกติ นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้บริหารฝ่ายการเงินทั้งหมดระบุว่า บริษัทของตนจะทำให้รูปแบบการทำงานจากที่บ้านกลายเป็น “ทางเลือกถาวร” สำหรับบุคลากรในตำแหน่งงานที่เหมาะสม  โซลูชั่นใหม่ของซิสโก้จะช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายที่สำคัญเหล่านี้ในอนาคต โดยจะช่วยให้บุคลากรสามารถทำงานนอกสถานที่ หรือจากที่บ้านได้อย่างปลอดภัย และรองรับการสร้างสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานที่ไว้วางใจได้

ขณะที่องค์กรต่างๆ รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส หลายๆ องค์กรได้ปรับใช้โซลูชั่นที่มุ่งเน้นการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ โดยร่วมมือกับส่วนงาน Cisco Customer Experience (CX) และพาร์ทเนอร์ของซิสโก้ เพื่อจัดการดูแลให้องค์กรเหล่านี้ให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ ฉับไว สำหรับการรับมือกับการแพร่ระบาดในระยะถัดไป รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ ฝ่ายไอที และฝ่ายปฏิบัติการ ให้ความสำคัญกับการทำให้สภาพแวดล้อมไอทีที่สามารถปรับตัว และเรียนรู้จากบทเรียนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  ทั้งนี้ผู้บริหารฝ่ายการเงินส่วนใหญ่ (72%) ที่ตอบแบบสอบถามของ PwC คาดการณ์ว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่น และความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 49% ระบุว่าการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรมีความพร้อม และความแข็งแกร่งมากขึ้นในระยะยาว

ชัค ร็อบบินส์ ประธานและซีอีโอของซิสโก้ กล่าวว่า “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ มากมาย โดยทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  องค์กรธุรกิจที่เคยกำหนดกลยุทธ์ทางด้านดิจิทัลสำหรับระยะเวลา 1-3 ปี ตอนนี้กลับต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและโครงการต่างๆ ภายในเวลาชั่วข้ามคืน  โซลูชั่นใหม่ของซิสโก้มุ่งเน้นการปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจ และปรับใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น”

โซลูชั่นที่ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกิจนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอาศัยประสบการณ์ของซิสโก้ในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าหลายพันรายตลอดช่วงระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน โดยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สาธารณสุข และการศึกษา และมีโมเดลการใช้งานและบริการที่สะดวกง่ายดาย ช่วยให้ลูกค้าแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที  โซลูชั่นดังกล่าวจะได้รับการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในด้านอื่นๆ เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในสถานที่ทำงาน การติดต่อสื่อสารกับพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบเสมือนจริง และสถานพยาบาลขนาดเล็กที่อาศัยการเชื่อมต่อในการให้บริการ (pop-up connected clinics) จุดเด่นที่สำคัญของโซลูชั่นใหม่ของซิสโก้มีดังต่อไปนี้:

โซลูชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม

โรงพยาบาลและสถานศึกษาได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ส่งผลให้การดำเนินงานหยุดชะงักงันทันที แต่ด้วยความช่วยเหลือของซิสโก้ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายๆ องค์กรก็สามารถเปิดใช้งานระบบทางไกล และเปลี่ยนไปใช้ระบบธุรการแบบเสมือนจริง รวมถึงการให้บริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ได้อย่างฉับไว  ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าปรับปรุงความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยโซลูชั่นใหม่ๆ ที่นำเสนอสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าวมีดังนี้: 

  • การเรียนรู้ทางไกล – เทคโนโลยีที่รองรับการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยและความเชี่ยวชาญของซิสโก้ช่วยให้เด็กและเยาวชนราว 1.2 พันล้านคนทั่วโลกสามารถเรียนรู้นอกห้องเรียนได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โซลูชั่นนี้ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น Babson College ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเส็ตต์
  • โรงพยาบาลภาคสนามที่ดำเนินการชั่วคราวโดยอาศัยการเชื่อมต่อเครือข่าย – ชุดโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบสำเร็จรูปที่สามารถติดตั้งและเริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่เกิน 5 วัน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาล หรือจัดหาศูนย์บริการทางการแพทย์ชั่วคราว  โซลูชั่นนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายสำหรับการเข้าถึงข้อมูล เสียง และวิดีโอ พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรสำหรับเครือข่าย บริการช่วยเหลือและคำแนะนำสำหรับการติดตั้งใช้งาน  โซลูชั่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ของซิสโก้และพาร์ทเนอร์โดยตรงในการรองรับการดำเนินงานของโรงพยาบาลชั่วคราว เช่น โรงพยาบาลภาคสนาม NHS Nightingale ในประเทศอังกฤษ และ University of Maryland Medical System ในสหรัฐฯ

ดร. ฟิล คนูเทล รองอธิการบดีและผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงของ Babson College กล่าวว่า “Babson College ไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีของซิสโก้ ทั้งในส่วนของอุปกรณ์เครือข่าย และแพลตฟอร์ม Webex และ Teams ที่ปลอดภัยและเปี่ยมด้วยเสถียรภาพ ช่วยให้เราสามารถโยกย้ายหลักสูตรทั้งหมด 650 หลักสูตร รวมไปถึงนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรทุกคนไปสู่ระบบออนไลน์ได้อย่างตรงโจทย์ และมีประสิทธิภาพ”

โซลูชั่นสำหรับการทำงานนอกสถานที่อย่างปลอดภัย

ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด ลูกค้าได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากซิสโก้เพื่อจัดการให้บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยอาศัยโซลูชั่นที่ปลอดภัยและการปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น โซลูชั่นดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงส่วนงานต่างๆได้ เช่น:

  • ศูนย์บริการระยะไกล – เทคโนโลยีและบริการติดตั้งที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริการ (Contact Center) สามารถทำงานจากที่บ้านโดยใช้โซลูชั่นคลาวด์ หรือเข้าใช้งานระบบที่ติดตั้งไว้ภายในองค์กรได้อย่างปลอดภัย
  • การเข้าถึงระยะไกลอย่างยืดหยุ่น – ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่จะช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงเครือข่าย อุปกรณ์ลูกข่ายที่รองรับการทำงานร่วมกัน และแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจ  โซลูชั่นนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว สามารถเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ที่มีอยู่ได้ตามต้องการ
  • การทำงานจากที่บ้านอย่างปลอดภัย – รองรับการรักษาความปลอดภัยสำหรับการเข้าถึงแบบระยะไกล (Remote Access) โดยใช้เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ขีดความสามารถของ VPN กำหนดแผนการติดตั้งโดยใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ และดำเนินการวางแผน ออกแบบ และตั้งค่าเครือข่าย VPN เพื่อช่วยให้พนักงานเข้าถึงระบบผ่านการเชื่อมต่อระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

โซลูชั่นสถานที่ทำงานที่ไว้ใจได้

องค์กรธุรกิจต่างๆในปัจจุบัน พยายามที่จะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ พร้อมทั้งรองรับ “การกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ” อย่างปลอดภัย และขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจและวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อให้พนักงานและลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด  ซิสโก้สนับสนุนการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ เช่น:

  • ระบบเสมือนจริงสำหรับการเยี่ยมผู้ต้องขังในทัณฑสถาน –ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยผ่านระบบวิดีโอ พร้อมระบบจัดการสำหรับผู้ใช้งาน ช่วยให้ญาติพี่น้อง ที่ปรึกษา แพทย์ และทนายความสามารถติดต่อพูดคุยกับผู้ต้องขังได้อย่างง่ายดาย  ซิสโก้ช่วยอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ อุปกรณ์เครือข่าย ระบบรักษาความปลอดภัย จัดการฝึกอบรม และให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ใช้  ระบบเสมือนจริงสำหรับการเยี่ยมผู้ต้องขังนี้จะช่วยให้ทางทัณฑสถานสามารถปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง เปิดโอกาสให้มีการติดต่อพูดคุยกันมากขึ้น ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย 
  • การเชื่อมต่อออฟฟิศระยะไกล– ขยายเครือข่ายขององค์กรไปยังสถานที่ตั้งใกล้เคียงและจุดที่อยู่ไกลออกไป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สำหรับแบนด์วิธที่มากขึ้น การเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่า และความปลอดภัยที่เหนือกว่า  บริการและเทคโนโลยีที่ซิสโก้นำเสนอจะช่วยให้ลูกค้าออกแบบ สร้าง และใช้งานโซลูชั่น Wireless LAN ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจได้อย่างปลอดภัย ด้วยประสบการณ์การเชื่อมต่อไร้สายที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ

  • มีการตรวจสอบความหนาแน่นทางสังคม (Social Density) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก– โซลูชั่นนี้อาศัยความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่รองรับการเว้นระยะห่างทางสังคมในสถานที่ทำงาน โซลูชั่นนี้พัฒนาต่อยอดจาก DNA Spaces ของซิสโก้ และใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานไร้สาย โดยทำหน้าที่หาข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของพนักงานจากสถานที่หลายๆ แห่ง ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน  โซลูชั่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่น Cisco CX Business Resiliency

• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของซิสโก้ร่วมกับโรงพยาบาล NHS Nightingale ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

Cisco Webex พลิกโฉมการทำงานรูปแบบใหม่ รองรับบุคลากรที่ทำงานจากที่บ้าน และที่กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศให้ทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย Webex ขยายขีดความสามารถ รองรับเทเลเฮลท์ (บริการสาธารณสุขทางไกล) ยกระดับความปลอดภัย พร้อมการวิเคราะห์การใช้งานแบบอัจฉริยะ 

  • แพลตฟอร์ม Webex รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปริมาณการใช้งานทั่วโลกสูงกว่าปกติถึง “3 เท่า”
  • ในฐานะผู้ให้บริการความต่อเนื่องของธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด ซิสโก้ลงทุนปรับปรุง Webex พร้อมขยายกำลังความสามารถรองรับผู้ใช้งานทั่วโลก 
  • เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัยจากทุกที่ ซิสโก้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Webex และทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Box
  • ข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริงของ Webex Control Hub ช่วยให้ฝ่ายไอทีบริหารจัดการบุคลากรจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้าน และบุคลากรที่กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ
  • ช่วยแพทย์ในการให้บริการแก่ผู้ป่วยผ่านระบบวิดีโอทางไกล โดยการผนวกรวมเข้ากับระบบ Epic

เทคโนโลยีสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยซึ่งช่วยให้ผู้คนทำงานได้จากทุกที่กลายเป็นประเด็นสำคัญสูงสุดสำหรับผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) ทั้งยังสร้างแรงกดดันให้แก่ทีมงานฝ่ายไอทีในการรองรับการทำงานจากที่บ้านอย่างแพร่หลายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ควบคู่ไปกับการวางแผนรับมือการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศหลังจากผ่อนคลายการล็อคดาวน์ ด้วยเหตุนี้ ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) จึงได้เปิดตัวส่วนปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Webex เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายดังกล่าว เช่น การปรับปรุงความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริง ซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้งานอย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบูรณาการระบบที่เข้ากับแพลตฟอร์ม Box  นอกจากนี้ ยังผนวกรวมระบบเข้ากับ Epic สำหรับบริการสาธารณสุข โดยจะช่วยให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการติดต่อและรับบริการจากสถานพยาบาล

Webex ครองตำแหน่งผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน และพร้อมที่จะตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Webex รองรับผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า 500 ล้านคน และการประชุมที่ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมดกว่า 25,000 ล้านนาที มากกว่าการใช้งานเฉลี่ยในสภาวะปกติกว่า 3 เท่า

จาเว็ด ข่าน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการทำงานร่วมกันของซิสโก้ กล่าวว่า “การเปิดโอกาสให้พนักงาน ผู้บริหารองค์กร โรงพยาบาล และผู้ใช้กลุ่มอื่นๆ อีกมากมายสามารถติดต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นภารกิจหลักของเรา  แม้กระทั่งก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด ซิสโก้ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยรองรับการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เกือบครึ่งหนึ่งของโลก และตอนนี้แพลตฟอร์มของเรามียอดการใช้งานสูงกว่าปกติถึง 3 เท่า  เราภาคภูมิใจที่เรายืนอยู่เคียงข้างลูกค้าในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการเรามากที่สุด สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีในช่วงเวลาที่มีความจำเป็นมากที่สุด และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกภาคส่วนผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี”

  • เพิ่มความจุ—รองรับการใช้งาน Webex อย่างต่อเนื่องและเป็นเครื่องมือที่ไว้ใจได้  

Webex กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ สถาบันอุดมศึกษา และองค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่  เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและนำเสนอคุณภาพการให้บริการเหนือความคาดหวังของผู้ใช้ เราจึงได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยในปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Webex ของเราสามารถรองรับการใช้งานได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า 

  • เพิ่มความปลอดภัย—รองรับการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัยและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่บุคลากรทั่วโลกทำงานจากที่บ้านกันมากขึ้น ส่งผลให้ “การรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว” กลายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรรายใหญ่ที่สุดในโลก ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะคุ้มครอง “ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความโปร่งใส” ในทุกๆ ด้าน และนั่นคือเหตุผลที่โซลูชั่นการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ของซิสโก้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ 95% ที่ติดอันดับ Fortune 500  และด้วยการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์ม Webex ทำให้เราสามารถขยายการให้บริการในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย (Data Loss Prevention - DLP), การอายัดข้อมูลตามกฎหมาย (Legal Hold) และการสืบค้นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (eDiscovery) สำหรับการประชุม Webex ซึ่งนับเป็นการยกระดับความปลอดภัยและการปกป้องอย่างเหนือชั้นสำหรับคอนเทนต์การประชุมทั้งหมด ทั้งในส่วนของการบันทึกวิดีโอ บทบรรยาย รายการการดำเนินการ และไฮไลต์  ถือเป็นอีกหนึ่งบริการด้านความปลอดภัยระดับชั้นนำสำหรับการประชุม Webex และนอกจากนี้เรายังได้ขยายตัวเลือกการเข้ารหัสแบบครบวงจรเพื่อให้ครอบคลุมการเข้ารหัส AES 256 บิต พร้อมด้วยโหมด GCM ซึ่งจะช่วยเพิ่มการปกป้องสำหรับข้อมูลการประชุม และป้องกันการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล

  • แนวทางใหม่สำหรับการจัดการบุคลากรจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้าน รวมถึงการกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ 

จากผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารซีไอโอครั้งล่าสุดภายใต้ชื่อ CIO Perspectives 2020 พบว่าซีไอโอกว่าสองในสามคิดว่า ”ความซับซ้อนของระบบไอที” คือปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับการดำเนินการในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ โดยคำถามสำคัญก็คือ “เราจะสามารถให้บริการที่ดีที่สุดแก่บุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างไร?” และ “เราจะสร้างสภาพแวดล้อมการประชุมที่ปลอดภัยมากขึ้นในออฟฟิศได้อย่างไร?”  เพื่อช่วยให้ทีมงานฝ่ายไอทีตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว Cisco Webex Control Hub จึงนำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริง ซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถจัดการเวิร์กโหลดการทำงานร่วมกันทั้งหมดผ่านแผงควบคุมหนึ่งเดียว ไม่ว่าพนักงานจะทำงานอยู่ที่บ้านหรือในสำนักงาน  กรณีการใช้งาน Control Hub ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีดังนี้:

- ติดตั้งใช้งาน Webex Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สั่งงานด้วยเสียง สำหรับอุปกรณ์ในห้องประชุม โดย Control Hub ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับการดำเนินการในส่วนนี้ แม้กระทั่งในกรณีที่คุณมีอุปกรณ์หลายหมื่นเครื่อง โดยจะช่วยลดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้จะต้องแตะหน้าจอหรือทัชแพดในพื้นที่ที่ใช้งานร่วมกัน 

- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ห้องประชุมเพื่อจัดตารางเวลาทำความสะอาดห้อง และวางแผนเกี่ยวกับเลย์เอาต์สำนักงานในอนาคต โดยจะสามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่าห้องใดถูกใช้งานมากที่สุด และใช้ข้อมูลนี้เพื่อจัดตารางเวลาทำความสะอาด หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องประชุมให้ตอบโจทย์ และสอดรับกับความต้องการมากยิ่งขึ้น 

- วิเคราะห์ข้อมูล ‘การประชุมแบบเรียลไทม์’ เพื่อปรับปรุงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งาน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในช่วงที่บุคลากรกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศอีกครั้ง

- วิเคราะห์แนวโน้มการใช้งานเพื่อระบุว่าองค์กรควรจะลงทุนเพิ่มเติมในบริการ และอุปกรณ์ใดบ้าง

- แก้ไขปัญหาและให้บริการช่วยเหลือแก่บุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนั้น เรายังได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ UC ที่เชื่อมต่อคลาวด์ให้กับ Control Hub เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานของฝ่ายไอทีสำหรับการติดตั้งระบบไฮบริดและการวิเคราะห์ข้อมูล Webex Calling  อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

พร้อมกันนี้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาต่อยอดจากระบบที่มีอยู่ ซิสโก้ได้ผนวกรวม Webex Teams เข้ากับ Box ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการคอนเทนต์บนระบบคลาวด์ที่ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 500 ราว 68% และองค์กรธุรกิจเกือบ 100,000 แห่งทั่วโลก  แน่นอนว่า Webex Teams มีฟีเจอร์การแชร์ไฟล์ที่ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว และตอนนี้ลูกค้าจะสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์ม Box รวมไปถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่บูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มของซิสโก้ได้อีกด้วย


-  เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขทางไกล ทั้งสำหรับผู้ป่วยและสถานพยาบาล ด้วยการบูรณาการเข้ากับระบบ Epic

ระบบบริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยให้แพทย์สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องพบปะกันโดยตรง  Webex ได้ผนวกรวมระบบเข้ากับซอฟต์แวร์เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ของ Epic ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถใช้ Webex Teams เพื่อพูดคุยให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยผ่านระบบวิดีโอทางไกล รวมทั้งตรวจสอบประวัติการรักษา และอัพเดตเอกสารทางการแพทย์ โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือข้อมูลใดๆ เพียงแค่ล็อกอินเข้าสู่เซสชั่นการใช้งานที่มีความปลอดภัยสูงผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์และรับบริการทางการแพทย์ตามที่ต้องการ  ปัจจุบันผู้ป่วยกว่า 250 ล้านรายมีเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระบบ Epic  นอกจากนี้ พันธมิตรรายอื่นๆ ของซิสโก้ก็กำลังพัฒนาและปรับใช้แอพพลิเคชั่นและโซลูชั่นด้าน Telehealth เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วโลกได้อย่างเหมาะสม

คำกล่าวของลูกค้า นักวิเคราะห์ และพันธมิตร: 

จิม ลันดี้ ผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และหัวหน้านักวิเคราะห์ของ Aragon Research

“จากสถานการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำงานนอกสถานที่ หรือจากที่บ้านนับเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญอยู่ที่ผลงานที่เราสร้างขึ้น ไม่ใช่สถานที่ที่เราใช้ในการทำงาน  และในอนาคตข้างหน้า บริษัทต่างๆ จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นที่แนวทางการจัดการบุคลากร มากกว่าการจัดการสถานที่ รวมถึงเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานร่วมกันผ่านระบบวิดีโอที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยสูง รองรับการใช้งานในวงกว้าง จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานตามวิถีใหม่” 

อภิจิต มาซัมเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Tata Consultancy Services

“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส สิ่งแรกที่เราเป็นกังวลก็คือความปลอดภัยของพนักงาน ดังนั้นเราจึงหาหนทางที่จะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และภายในช่วงเวลาสั้นๆ เราสามารถจัดการให้พนักงานของเราราว 95% ทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม Secure Borderless Workspaces™ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยเครื่องมือที่หลากหลายบนระบบคลาวด์ รวมถึง Cisco Webex”

แอรอน เลวี ซีอีโอของ Box

“ในยุคสมัยใหม่ของการทำงานจากที่บ้าน องค์กรธุรกิจทั่วโลกรีบเร่งมองหาเครื่องมือที่ดีกว่าเพื่อช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และสามารถติดต่อประสานงานกับลูกค้าและคู่ค้าได้จากทุกที่และบนทุกอุปกรณ์  เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับซิสโก้ ด้วยการบูรณาการแพลตฟอร์ม Box และ Webex เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทสามารถรองรับการทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ข้อมูลเพิ่มเติม: 

  • บล็อก: Webex ช่วยให้ทีมงานทำงานร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ – โดย จาเว็ด ข่าน จากซิสโก้
  • บล็อก: เสริมประสิทธิภาพทีมเวิร์คด้วย Box และ Cisco Webex Teams – โดย Box
  • วิดีโอ: ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงโควิดแพร่ระบาด (วิดีโอสำหรับลูกค้า)
  • วิดีโอ: Cisco Webex--ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ

ซิสโก้ลดความซับซ้อนของระบบรักษาความปลอดภัย รองรับภารกิจงานไอทีที่เร่งด่วน Cisco SecureX ประกอบด้วยชุดผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของซิสโก้ ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานอย่างดี่เยี่ยม

  • Cisco SecureX เป็น “แพลตฟอร์มไซเบอร์ซีเคียวริตี้แบบครบวงจรและครอบคลุมที่สุดบนระบบคลาวด์” เตรียมเปิดใช้งานวันที่ 30 มิถุนายน 2563
  • ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศสามารถใช้ SecureX เพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้านเพิ่มมากขึ้น ให้การตรวจสอบแบบครบวงจรสำหรับผลิตภัณฑ์ด้านซีเคียวริตี้ของซิสโก้ ด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ แก้ไขปัญหาภัยคุกคามอย่างทันท่วงที
  • ส่วนปรับปรุงและส่วนบูรณาการเพิ่มเติมช่วยให้บุคลากรทำงานนอกสถานที่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งรับมือภัยคุกคามอันดับ 1 ที่ใช้ช่องทางอีเมลในการโจมตี

ซิสโก้ เปิดตัว Cisco SecureX แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่ครบถ้วนมากที่สุด ทำงานบนระบบคลาวด์ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของซิสโก้ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า และปรับปรุงการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม โดยแพลตฟอร์ม SecureX จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในวันที่ 30 มิถุนายน 2563  ปัจจุบันองค์กรต่างๆ ประสบปัญหาท้าทายทางด้านธุรกิจและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ขณะที่บุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่ หรือทำงานจากที่บ้านก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อและปกป้องลูกค้าที่ทำงานจากทุกๆ ที่บนทุกอุปกรณ์ และสานต่อภารกิจในการผสานรวมและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การจัดการระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรนับเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน โดยจะต้องรองรับกระบวนการทางธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการตรวจสอบติดตามภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่หลากหลายและต้องครอบคลุมทุกแง่มุม ข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงตอกย้ำสถานการณ์ดังกล่าว โดยผลการสำรวจ CIO Perspectives 2020 ของซิสโก้ ซึ่งมีการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) 1,300 คนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ชี้ว่าปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุด 2 ข้อสำหรับผู้บริหารซีไอโอในปัจจุบันก็คือ “ความปลอดภัย ตามมาด้วยความซับซ้อน” ทั้งนี้ผู้บริหารซีไอโอกว่าสองในสามรู้สึกว่าตนเองมีภาระมากมายที่จะต้องจัดการในคราวเดียวกัน ทั้งยังต้องแก้ไขปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนด้วยการผนวกรวมเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกัน  ข้อมูลล่าสุดจากรายงาน 2020 CISO Benchmark Report ของซิสโก้เปิดเผยว่า ในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ องค์กรที่ใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยจากหลายบริษัทประสบปัญหาระบบหยุดทำงานยาวนานกว่า ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า และมีข้อมูลรั่วไหลหรือสูญหายมากกว่า

เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายที่มีอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แพลตฟอร์ม SecureX จึงเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายของซิสโก้เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของลูกค้า เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกและสอดคล้องกัน โดยผสานรวมระบบตรวจสอบ ระบบงานอัตโนมัติ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัย ครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่าย อุปกรณ์ลูกข่าย ระบบคลาวด์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ  แพลตฟอร์ม SecureX ช่วยให้ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้รับประโยชน์จากความสามารถเหล่านี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด:

  • การตรวจสอบแบบครบวงจร - SecureX จัดหาข้อมูลดัชนีที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินงานและภัยคุกคาม โดยครอบคลุมทั้งเครือข่าย อุปกรณ์ลูกข่าย ระบบคลาวด์ และแอพพลิเคชั่น  ด้วยฟีเจอร์ SecureX Ribbon แพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกรวมไว้ในเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของซิสโก้ ดังนั้นลูกค้าจึงสามารถเข้าถึงความสามารถของแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างไร้รอยต่อโดยครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์
  • ระบบงานอัตโนมัติเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน – ลูกค้าสามารถกำหนดขั้นตอนการทำงานแบบอัตโนมัติบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากกลุ่มธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ รวมถึงบริษัทอื่นๆ และดังนั้นจึงสามารถทุ่มเทเวลาและความพยายามให้กับงานที่สำคัญกว่า แพลตฟอร์ม SecureX จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาหลายชั่วโมงในการทำงาน ด้วยระบบงานอัตโนมัติที่ทำการค้นหาภัยคุกคามโดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองด้านภัยคุกคามของ Cisco Talos และแหล่งข้อมูลอื่นๆ
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมากขึ้น – ระบบตอบสนองต่อภัยคุกคามของ SecureX ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยสามารถระบุเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรองจากแหล่งต่างๆ และระบบตรวจวัดระยะไกลอัตโนมัติจากเครือข่าย อุปกรณ์ลูกข่าย อีเมล ระบบคลาวด์ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ

นับตั้งแต่ที่ SecureX ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ให้การตอบรับที่ดีเยี่ยม:

  • ไมเคิล เดอกรูท ที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานของ Mohawk Industries กล่าวว่า “แนวทางแบบแพลตฟอร์มอย่าง SecureX ถือเป็นอนาคตของระบบรักษาความปลอดภัยที่ Mohawk Industries เพราะจะช่วยให้สิ่งต่างๆ ง่ายดายและรวดเร็วมากขึ้น และเราเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของเราได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  ระบบงานอัตโนมัติและข้อกำหนดที่ปรับแต่งได้ตามต้องการใน SecureX จะสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในสภาพแวดล้อมการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust และจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยให้กับบริษัทของเราในระยะยาว  เราคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์มากมายอย่างเป็นรูปธรรมจากแพลตฟอร์ม SecureX” 
  • มิค เจนกินส์ ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศระดับสูงของ Brunel University กล่าวว่า “หนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดสำหรับผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยสารสนเทศก็คือ การป้อนข้อมูลข่าวกรองที่ถูกต้องให้แก่หน่วยงานอื่นๆ  แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและตรวจสอบร่องรอยและหลักฐานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 
  • คอลลิน จอห์น ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยทั่วโลกของ Alvarez and Marsal กล่าวว่า “แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่รองรับการประสานงานร่วมกันอย่างกลมกลืนถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้ทีมงานต่างๆ สามารถร่วมมือกันแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ  การมีหลายๆ ระบบหรือหลายๆ ส่วนงานที่แยกออกจากกันย่อมจะก่อให้เกิดจุดอ่อนและความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น  แพลตฟอร์มนี้ผนวกรวมระบบตรวจสอบอย่างครบวงจร รวมทั้งเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากระบบ DevOps, SecOps และแม้กระทั่งโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างเต็มศักยภาพ”
  • บ็อบ คักนาสซี ซีอีโอของ Presidio กล่าวว่า “ลูกค้าของเรามีแผนที่จะผนวกรวมระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกัน และดังนั้นจึงต้องการโซลูชั่นที่จัดการได้ง่ายและสามารถบูรณาการเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยที่ลูกค้ามีอยู่  ซิสโก้ได้สร้างชุดโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมและแข็งแกร่ง แพลตฟอร์ม Cisco SecureX จะช่วยให้เราแสดงค่าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ Presidio จะสามารถบริการเสริมสำหรับแพลตฟอร์ม SecureX และปรับปรุงการให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมในอนาคต”

จี ริทเทนเฮาส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ กล่าวว่า “ในการนำเสนอแพลตฟอร์ม SecureX เราต้องการที่จะพลิกโฉมหน้าระบบรักษาความปลอดภัยให้มีความสะดวกง่ายดายและทำงานแบบอัตโนมัติ  แพลตฟอร์มนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับวงการอุตสาหกรรม และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อบุคลากรฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัย  ในโลกสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าต้องการแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่สามารถปกป้องพนักงานได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใดก็ตาม และจะต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างเหมาะสม”

นอกเหนือจากความสะดวกง่ายดายของแพลตฟอร์ม SecureX แล้ว กลุ่มธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ยังเปิดตัวส่วนปรับปรุงและส่วนบูรณาการใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยรองรับบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่หรือจากที่บ้านได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น: 

  • การปกป้องผู้ใช้และอุปกรณ์อย่างครบวงจร ด้วยการบูรณาการระหว่างระบบรักษาความปลอดภัยบนอุปกรณ์ลูกข่ายกับระบบตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลโดยใช้ปัจจัยหลายอย่าง (Multi-Factor Authentication หรือ MFA) 
  • ลูกค้าสามารถใช้อีเมลบนระบบคลาวด์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น  Cloud Mailbox Defense for Office365 ช่วยให้สามารถตรวจสอบอีเมลได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ (อีเมลขาเข้า ขาออก และข้อความภายในองค์กร) โดยอาศัยบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงที่ใช้ช่องทางอีเมล เช่น ฟิชชิ่ง มัลแวร์เรียกค่าไถ่ การสวมรอยอีเมล และสแปม

ข้อมูลเพิ่มเติม:

COMMENTS