หลังจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 องค์กรธุรกิจได้ตระหนักแล้วว่า “การปรับตัว” (Resilience) เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจฟื้นตัว จากการที่องค์กรธุรกิจเคยกำหนดกลยุทธ์ทางด้านดิจิทัลสำหรับระยะเวลา 1-3 ปี ต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและโครงการต่างๆ ภายในเวลาชั่วข้ามคืน ขณะที่ “เทคโนโลยี” ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปกติ หรือสถานการณ์ไม่ปกติก็ตาม
ภาคธุรกิจยังคงต้องหาวิธีการเพื่อให้กิจการไปต่ออย่างไม่สะดุด สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในการใช้เทคโนโลยีท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอน การทำให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง และราบรื่นกลายเป็นภารกิจสำคัญสำหรับผู้บริหารองค์กร ผลการสำรวจความคิดเห็น COVID-19 CFO Pulse Survey ครั้งที่ 5 จากไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) เผยว่าประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) ระบุว่าสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุดในขณะนี้คือ มาตรการและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของที่ทำงาน (87%) เพราะพนักงานเริ่มกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศตามปกติ
ในวันที่ไม่ปกติ ธุรกิจที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างยืดหยุ่นเป็นธุรกิจที่ได้ไปต่อ และไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรก็ตาม การบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด
Cisco จัดงาน Cisco Live! Virtual Press Briefing ผ่านแอพลิเคชั่น WebEx Meet กับ วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน
ซิสโก้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ รองรับบุคลากรและสถานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานรวมเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวให้เข้ากับ “วิถีชีวิตใหม่”
ซิสโก้ได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ที่มุ่งเน้นความยืดหยุ่นของธุรกิจ (Business Resiliency) เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอน การจัดการดูแลธุรกิจให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นกลายเป็นภารกิจสำคัญสำหรับผู้บริหารองค์กรธุรกิจ จากผลการสำรวจความคิดเห็น PwC COVID-19 CFO Pulse Survey ครั้งที่ 5 ผู้บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) ระบุว่าสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุด(87%) คือ มาตรการและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของที่ทำงานเมื่อพนักงานเริ่มกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศตามปกติ นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้บริหารฝ่ายการเงินทั้งหมดระบุว่า บริษัทของตนจะทำให้รูปแบบการทำงานจากที่บ้านกลายเป็น “ทางเลือกถาวร” สำหรับบุคลากรในตำแหน่งงานที่เหมาะสม โซลูชั่นใหม่ของซิสโก้จะช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายที่สำคัญเหล่านี้ในอนาคต โดยจะช่วยให้บุคลากรสามารถทำงานนอกสถานที่ หรือจากที่บ้านได้อย่างปลอดภัย และรองรับการสร้างสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานที่ไว้วางใจได้
ขณะที่องค์กรต่างๆ รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส หลายๆ องค์กรได้ปรับใช้โซลูชั่นที่มุ่งเน้นการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ โดยร่วมมือกับส่วนงาน Cisco Customer Experience (CX) และพาร์ทเนอร์ของซิสโก้ เพื่อจัดการดูแลให้องค์กรเหล่านี้ให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ ฉับไว สำหรับการรับมือกับการแพร่ระบาดในระยะถัดไป รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ ฝ่ายไอที และฝ่ายปฏิบัติการ ให้ความสำคัญกับการทำให้สภาพแวดล้อมไอทีที่สามารถปรับตัว และเรียนรู้จากบทเรียนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้บริหารฝ่ายการเงินส่วนใหญ่ (72%) ที่ตอบแบบสอบถามของ PwC คาดการณ์ว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่น และความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 49% ระบุว่าการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรมีความพร้อม และความแข็งแกร่งมากขึ้นในระยะยาว
ชัค ร็อบบินส์ ประธานและซีอีโอของซิสโก้ กล่าวว่า “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ มากมาย โดยทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน องค์กรธุรกิจที่เคยกำหนดกลยุทธ์ทางด้านดิจิทัลสำหรับระยะเวลา 1-3 ปี ตอนนี้กลับต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและโครงการต่างๆ ภายในเวลาชั่วข้ามคืน โซลูชั่นใหม่ของซิสโก้มุ่งเน้นการปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจ และปรับใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น”
โซลูชั่นที่ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกิจนี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอาศัยประสบการณ์ของซิสโก้ในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าหลายพันรายตลอดช่วงระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน โดยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สาธารณสุข และการศึกษา และมีโมเดลการใช้งานและบริการที่สะดวกง่ายดาย ช่วยให้ลูกค้าแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที โซลูชั่นดังกล่าวจะได้รับการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในด้านอื่นๆ เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในสถานที่ทำงาน การติดต่อสื่อสารกับพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบเสมือนจริง และสถานพยาบาลขนาดเล็กที่อาศัยการเชื่อมต่อในการให้บริการ (pop-up connected clinics) จุดเด่นที่สำคัญของโซลูชั่นใหม่ของซิสโก้มีดังต่อไปนี้:
โซลูชั่นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม
โรงพยาบาลและสถานศึกษาได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ส่งผลให้การดำเนินงานหยุดชะงักงันทันที แต่ด้วยความช่วยเหลือของซิสโก้ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายๆ องค์กรก็สามารถเปิดใช้งานระบบทางไกล และเปลี่ยนไปใช้ระบบธุรการแบบเสมือนจริง รวมถึงการให้บริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ได้อย่างฉับไว ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าปรับปรุงความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยโซลูชั่นใหม่ๆ ที่นำเสนอสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าวมีดังนี้:
ดร. ฟิล คนูเทล รองอธิการบดีและผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงของ Babson College กล่าวว่า “Babson College ไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีของซิสโก้ ทั้งในส่วนของอุปกรณ์เครือข่าย และแพลตฟอร์ม Webex และ Teams ที่ปลอดภัยและเปี่ยมด้วยเสถียรภาพ ช่วยให้เราสามารถโยกย้ายหลักสูตรทั้งหมด 650 หลักสูตร รวมไปถึงนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรทุกคนไปสู่ระบบออนไลน์ได้อย่างตรงโจทย์ และมีประสิทธิภาพ”
โซลูชั่นสำหรับการทำงานนอกสถานที่อย่างปลอดภัย
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด ลูกค้าได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากซิสโก้เพื่อจัดการให้บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยอาศัยโซลูชั่นที่ปลอดภัยและการปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น โซลูชั่นดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงส่วนงานต่างๆได้ เช่น:
โซลูชั่นสถานที่ทำงานที่ไว้ใจได้
องค์กรธุรกิจต่างๆในปัจจุบัน พยายามที่จะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ พร้อมทั้งรองรับ “การกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ” อย่างปลอดภัย และขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจและวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อให้พนักงานและลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด ซิสโก้สนับสนุนการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ เช่น:
ข้อมูลเพิ่มเติม
• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่น Cisco CX Business Resiliency
• อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของซิสโก้ร่วมกับโรงพยาบาล NHS Nightingale ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
Cisco Webex พลิกโฉมการทำงานรูปแบบใหม่ รองรับบุคลากรที่ทำงานจากที่บ้าน และที่กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศให้ทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย Webex ขยายขีดความสามารถ รองรับเทเลเฮลท์ (บริการสาธารณสุขทางไกล) ยกระดับความปลอดภัย พร้อมการวิเคราะห์การใช้งานแบบอัจฉริยะ
เทคโนโลยีสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยซึ่งช่วยให้ผู้คนทำงานได้จากทุกที่กลายเป็นประเด็นสำคัญสูงสุดสำหรับผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) ทั้งยังสร้างแรงกดดันให้แก่ทีมงานฝ่ายไอทีในการรองรับการทำงานจากที่บ้านอย่างแพร่หลายในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ควบคู่ไปกับการวางแผนรับมือการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศหลังจากผ่อนคลายการล็อคดาวน์ ด้วยเหตุนี้ ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) จึงได้เปิดตัวส่วนปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Webex เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายดังกล่าว เช่น การปรับปรุงความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริง ซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้งานอย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบูรณาการระบบที่เข้ากับแพลตฟอร์ม Box นอกจากนี้ ยังผนวกรวมระบบเข้ากับ Epic สำหรับบริการสาธารณสุข โดยจะช่วยให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการติดต่อและรับบริการจากสถานพยาบาล
Webex ครองตำแหน่งผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน และพร้อมที่จะตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Webex รองรับผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า 500 ล้านคน และการประชุมที่ใช้ระยะเวลารวมทั้งหมดกว่า 25,000 ล้านนาที มากกว่าการใช้งานเฉลี่ยในสภาวะปกติกว่า 3 เท่า
จาเว็ด ข่าน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการทำงานร่วมกันของซิสโก้ กล่าวว่า “การเปิดโอกาสให้พนักงาน ผู้บริหารองค์กร โรงพยาบาล และผู้ใช้กลุ่มอื่นๆ อีกมากมายสามารถติดต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นภารกิจหลักของเรา แม้กระทั่งก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด ซิสโก้ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยรองรับการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เกือบครึ่งหนึ่งของโลก และตอนนี้แพลตฟอร์มของเรามียอดการใช้งานสูงกว่าปกติถึง 3 เท่า เราภาคภูมิใจที่เรายืนอยู่เคียงข้างลูกค้าในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการเรามากที่สุด สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีในช่วงเวลาที่มีความจำเป็นมากที่สุด และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกภาคส่วนผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี”
Webex กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ สถาบันอุดมศึกษา และองค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและนำเสนอคุณภาพการให้บริการเหนือความคาดหวังของผู้ใช้ เราจึงได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยในปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Webex ของเราสามารถรองรับการใช้งานได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า
ขณะที่บุคลากรทั่วโลกทำงานจากที่บ้านกันมากขึ้น ส่งผลให้ “การรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว” กลายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรรายใหญ่ที่สุดในโลก ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะคุ้มครอง “ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความโปร่งใส” ในทุกๆ ด้าน และนั่นคือเหตุผลที่โซลูชั่นการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ของซิสโก้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ 95% ที่ติดอันดับ Fortune 500 และด้วยการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์ม Webex ทำให้เราสามารถขยายการให้บริการในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย (Data Loss Prevention - DLP), การอายัดข้อมูลตามกฎหมาย (Legal Hold) และการสืบค้นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (eDiscovery) สำหรับการประชุม Webex ซึ่งนับเป็นการยกระดับความปลอดภัยและการปกป้องอย่างเหนือชั้นสำหรับคอนเทนต์การประชุมทั้งหมด ทั้งในส่วนของการบันทึกวิดีโอ บทบรรยาย รายการการดำเนินการ และไฮไลต์ ถือเป็นอีกหนึ่งบริการด้านความปลอดภัยระดับชั้นนำสำหรับการประชุม Webex และนอกจากนี้เรายังได้ขยายตัวเลือกการเข้ารหัสแบบครบวงจรเพื่อให้ครอบคลุมการเข้ารหัส AES 256 บิต พร้อมด้วยโหมด GCM ซึ่งจะช่วยเพิ่มการปกป้องสำหรับข้อมูลการประชุม และป้องกันการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล
จากผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารซีไอโอครั้งล่าสุดภายใต้ชื่อ CIO Perspectives 2020 พบว่าซีไอโอกว่าสองในสามคิดว่า ”ความซับซ้อนของระบบไอที” คือปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับการดำเนินการในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ โดยคำถามสำคัญก็คือ “เราจะสามารถให้บริการที่ดีที่สุดแก่บุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างไร?” และ “เราจะสร้างสภาพแวดล้อมการประชุมที่ปลอดภัยมากขึ้นในออฟฟิศได้อย่างไร?” เพื่อช่วยให้ทีมงานฝ่ายไอทีตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว Cisco Webex Control Hub จึงนำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริง ซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถจัดการเวิร์กโหลดการทำงานร่วมกันทั้งหมดผ่านแผงควบคุมหนึ่งเดียว ไม่ว่าพนักงานจะทำงานอยู่ที่บ้านหรือในสำนักงาน กรณีการใช้งาน Control Hub ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีดังนี้:
- ติดตั้งใช้งาน Webex Assistant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สั่งงานด้วยเสียง สำหรับอุปกรณ์ในห้องประชุม โดย Control Hub ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับการดำเนินการในส่วนนี้ แม้กระทั่งในกรณีที่คุณมีอุปกรณ์หลายหมื่นเครื่อง โดยจะช่วยลดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้จะต้องแตะหน้าจอหรือทัชแพดในพื้นที่ที่ใช้งานร่วมกัน
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ห้องประชุมเพื่อจัดตารางเวลาทำความสะอาดห้อง และวางแผนเกี่ยวกับเลย์เอาต์สำนักงานในอนาคต โดยจะสามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่าห้องใดถูกใช้งานมากที่สุด และใช้ข้อมูลนี้เพื่อจัดตารางเวลาทำความสะอาด หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องประชุมให้ตอบโจทย์ และสอดรับกับความต้องการมากยิ่งขึ้น
- วิเคราะห์ข้อมูล ‘การประชุมแบบเรียลไทม์’ เพื่อปรับปรุงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งาน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในช่วงที่บุคลากรกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศอีกครั้ง
- วิเคราะห์แนวโน้มการใช้งานเพื่อระบุว่าองค์กรควรจะลงทุนเพิ่มเติมในบริการ และอุปกรณ์ใดบ้าง
- แก้ไขปัญหาและให้บริการช่วยเหลือแก่บุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น เรายังได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ UC ที่เชื่อมต่อคลาวด์ให้กับ Control Hub เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานของฝ่ายไอทีสำหรับการติดตั้งระบบไฮบริดและการวิเคราะห์ข้อมูล Webex Calling อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
พร้อมกันนี้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาต่อยอดจากระบบที่มีอยู่ ซิสโก้ได้ผนวกรวม Webex Teams เข้ากับ Box ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการคอนเทนต์บนระบบคลาวด์ที่ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายโดยบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 500 ราว 68% และองค์กรธุรกิจเกือบ 100,000 แห่งทั่วโลก แน่นอนว่า Webex Teams มีฟีเจอร์การแชร์ไฟล์ที่ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว และตอนนี้ลูกค้าจะสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์ม Box รวมไปถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่บูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มของซิสโก้ได้อีกด้วย
- เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขทางไกล ทั้งสำหรับผู้ป่วยและสถานพยาบาล ด้วยการบูรณาการเข้ากับระบบ Epic
ระบบบริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยให้แพทย์สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องพบปะกันโดยตรง Webex ได้ผนวกรวมระบบเข้ากับซอฟต์แวร์เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ของ Epic ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถใช้ Webex Teams เพื่อพูดคุยให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยผ่านระบบวิดีโอทางไกล รวมทั้งตรวจสอบประวัติการรักษา และอัพเดตเอกสารทางการแพทย์ โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือข้อมูลใดๆ เพียงแค่ล็อกอินเข้าสู่เซสชั่นการใช้งานที่มีความปลอดภัยสูงผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์และรับบริการทางการแพทย์ตามที่ต้องการ ปัจจุบันผู้ป่วยกว่า 250 ล้านรายมีเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระบบ Epic นอกจากนี้ พันธมิตรรายอื่นๆ ของซิสโก้ก็กำลังพัฒนาและปรับใช้แอพพลิเคชั่นและโซลูชั่นด้าน Telehealth เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วโลกได้อย่างเหมาะสม
คำกล่าวของลูกค้า นักวิเคราะห์ และพันธมิตร:
จิม ลันดี้ ผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และหัวหน้านักวิเคราะห์ของ Aragon Research
“จากสถานการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำงานนอกสถานที่ หรือจากที่บ้านนับเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญอยู่ที่ผลงานที่เราสร้างขึ้น ไม่ใช่สถานที่ที่เราใช้ในการทำงาน และในอนาคตข้างหน้า บริษัทต่างๆ จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นที่แนวทางการจัดการบุคลากร มากกว่าการจัดการสถานที่ รวมถึงเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานร่วมกันผ่านระบบวิดีโอที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยสูง รองรับการใช้งานในวงกว้าง จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานตามวิถีใหม่”
อภิจิต มาซัมเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Tata Consultancy Services
“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส สิ่งแรกที่เราเป็นกังวลก็คือความปลอดภัยของพนักงาน ดังนั้นเราจึงหาหนทางที่จะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และภายในช่วงเวลาสั้นๆ เราสามารถจัดการให้พนักงานของเราราว 95% ทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม Secure Borderless Workspaces™ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยเครื่องมือที่หลากหลายบนระบบคลาวด์ รวมถึง Cisco Webex”
แอรอน เลวี ซีอีโอของ Box
“ในยุคสมัยใหม่ของการทำงานจากที่บ้าน องค์กรธุรกิจทั่วโลกรีบเร่งมองหาเครื่องมือที่ดีกว่าเพื่อช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และสามารถติดต่อประสานงานกับลูกค้าและคู่ค้าได้จากทุกที่และบนทุกอุปกรณ์ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับซิสโก้ ด้วยการบูรณาการแพลตฟอร์ม Box และ Webex เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทสามารถรองรับการทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ข้อมูลเพิ่มเติม:
ซิสโก้ลดความซับซ้อนของระบบรักษาความปลอดภัย รองรับภารกิจงานไอทีที่เร่งด่วน Cisco SecureX ประกอบด้วยชุดผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของซิสโก้ ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานอย่างดี่เยี่ยม
ซิสโก้ เปิดตัว Cisco SecureX แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่ครบถ้วนมากที่สุด ทำงานบนระบบคลาวด์ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของซิสโก้ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า และปรับปรุงการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม โดยแพลตฟอร์ม SecureX จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ปัจจุบันองค์กรต่างๆ ประสบปัญหาท้าทายทางด้านธุรกิจและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ขณะที่บุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่ หรือทำงานจากที่บ้านก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อและปกป้องลูกค้าที่ทำงานจากทุกๆ ที่บนทุกอุปกรณ์ และสานต่อภารกิจในการผสานรวมและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การจัดการระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรนับเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน โดยจะต้องรองรับกระบวนการทางธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการตรวจสอบติดตามภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่หลากหลายและต้องครอบคลุมทุกแง่มุม ข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงตอกย้ำสถานการณ์ดังกล่าว โดยผลการสำรวจ CIO Perspectives 2020 ของซิสโก้ ซึ่งมีการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) 1,300 คนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ชี้ว่าปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุด 2 ข้อสำหรับผู้บริหารซีไอโอในปัจจุบันก็คือ “ความปลอดภัย ตามมาด้วยความซับซ้อน” ทั้งนี้ผู้บริหารซีไอโอกว่าสองในสามรู้สึกว่าตนเองมีภาระมากมายที่จะต้องจัดการในคราวเดียวกัน ทั้งยังต้องแก้ไขปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนด้วยการผนวกรวมเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกัน ข้อมูลล่าสุดจากรายงาน 2020 CISO Benchmark Report ของซิสโก้เปิดเผยว่า ในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ องค์กรที่ใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยจากหลายบริษัทประสบปัญหาระบบหยุดทำงานยาวนานกว่า ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า และมีข้อมูลรั่วไหลหรือสูญหายมากกว่า
เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายที่มีอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แพลตฟอร์ม SecureX จึงเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายของซิสโก้เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของลูกค้า เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกและสอดคล้องกัน โดยผสานรวมระบบตรวจสอบ ระบบงานอัตโนมัติ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัย ครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่าย อุปกรณ์ลูกข่าย ระบบคลาวด์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ แพลตฟอร์ม SecureX ช่วยให้ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้รับประโยชน์จากความสามารถเหล่านี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด:
นับตั้งแต่ที่ SecureX ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ให้การตอบรับที่ดีเยี่ยม:
จี ริทเทนเฮาส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ กล่าวว่า “ในการนำเสนอแพลตฟอร์ม SecureX เราต้องการที่จะพลิกโฉมหน้าระบบรักษาความปลอดภัยให้มีความสะดวกง่ายดายและทำงานแบบอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับวงการอุตสาหกรรม และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อบุคลากรฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัย ในโลกสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าต้องการแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่สามารถปกป้องพนักงานได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใดก็ตาม และจะต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างเหมาะสม”
นอกเหนือจากความสะดวกง่ายดายของแพลตฟอร์ม SecureX แล้ว กลุ่มธุรกิจการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ยังเปิดตัวส่วนปรับปรุงและส่วนบูรณาการใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยรองรับบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่หรือจากที่บ้านได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น:
ข้อมูลเพิ่มเติม: