อัศนีย์ วิภาตเวทย์ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์ลูกค้าองค์กรและบริการระหว่างประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ Digital Infrastructure เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย เอไอเอส ได้พัฒนาเทคโนโลยี IoT เฉพาะเพื่อธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ Smart Building, Smart Office, Smart Property, Smart City, Smart Transportation, Smart Logistics รวมถึงโซลูชัน IoT อื่นๆ ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม เรามีความแข็งแกร่งในเรื่องของเครือข่ายสำหรับ IoT ตั้งแต่เครือข่าย NB-IoT ที่ประหยัดพลังงาน ไปจนถึงเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น 5G พร้อมสำหรับการเชื่อมต่อกับ IoT Platform เพื่อรองรับอุปกรณ์ IoT ที่หลากหลาย การใช้งาน Application และการสร้างเครือข่ายของผู้พัฒนา และ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยสร้างความสามารถใหม่ๆ อันไม่เพียงจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์แก่สาธารณชน ภาครัฐ ภาคการศึกษา และประเทศไทยโดยรวม ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ เอไอเอส ได้คว้ารางวัล Thailand IoT Service Provider of the Year Award มาครอบครองต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Thailand Data Center Competitive Strategy Innovation & Leadership Award ซึ่งมอบให้กับ CSL ในกลุ่มเอไอเอส ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลยอดนิยมของไทย ด้วยความเร็วการเชื่อมต่อระดับ 100 Gbps พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และสถานที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลที่มากที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมขยายบริการออกสู่ภูมิภาค รองรับการขยายตัวของ Edge Computing ในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบโจทย์กับทุกความต้องการของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งสองรางวัลที่เอไอเอสได้รับในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของเทคโนโลยี Digital รวมทั้งความรู้ และความสามารถของทีมงานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเพียบพร้อมของเอไอเอส ในการที่จะนำเทคโนโลยีมาร่วมฟื้นฟูประเทศและช่วยประเทศพิชิตวิกฤตได้ด้วยความเป็นเลิศ” อัศนีย์ กล่าว
สำหรับ Frost & Sullivan เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 50 ปี โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทและนักลงทุนชั้นนำระดับโลกมากกว่า 1,000 แห่ง จาก 40 กว่าประเทศทั่วโลก