Yin Qi ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Megvii [ภาพจาก chinadaily.con.cn]
ความเห็นของ Yin วิเคราะห์จากข้อมูลของบริษัทสำรวจตลาดอย่าง Gartner มองเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการพัฒนาด้าน AI มาสัก 5-6 ปี อุตสาหกรรม AI กำลังดิ่งลง บรรดาผู้ผลิต นักลงทุนต่างก็พยายามเข็น AI
มุมมองดังกล่าวสะท้อนจากผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรม AI อย่างเช่น Duane Kuang, founding managing partner ของ Qiming Venture Partners ให้ข้อมูลว่า หลายปีก่อนหากมีสตาร์ทอัพสนใจลงทุนแล้วพอมีเรื่อง AI เข้ามาเกี่ยวข้อง จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันมีบริษัท AI เยอะมากๆ (ย้ำว่า มากๆๆๆๆ) ทำให้ value ของ AI กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนเริ่มตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของ AI
ในเมื่อ อะไรที่มีคนพุ่งเป้าสนใจแห่กันไปทำเยอะมากๆ ผู้ผลิตต้องพยายามทำให้เห็นว่า สำเร็จ หรือล้มเหลว ควรลงทุนต่อ หรือหยุด และทำให้ผลิตภัณฑ์น่าสนใจตั้งแต่ระยะแรกๆ
การเข็น AI นั้นทำให้เกิดความ "ท้อ" ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 18 ถึง 24 เดือน Yin บอกว่า เฉพาะบริษัทที่สามารถตีโจทย์ AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับอุตสาหกรรมได้ ก็จะอยู่รอดและแข็งแกร่งในระยะยาวต่อไป
ในสายตาของผู้บริหารอายุ 32 ปี มองว่า สิ่งสำคัญของ AI คือ เรื่องคุณค่าที่แท้จริงของ AI การขาดแคลนอัลกอริทึ่มของคอมพิวเตอร์ ความยาก และต้นทุนของการนำอัลกอริทึ่มมาใช้ให้โดดเด่นในอุตสาหกรรม
แน่นอนว่า AI ได้รับการพูดถึงมากขึ้น นำมาใช้กับซุปเปอร์มาร์เก็ต, สมาร์ทโฟน บางคนก็มองว่า อัลกอริทึ่มของ AI นั้นง่ายมากๆ แต่อันที่แท้จริงแล้วยังห่างไกล
เมื่อเทียบกับความต้องการในการนำอัลกอริทึ่ม AI มาใช้ ตอนนี้ถูกนำมาใช้เพียง 1 เปอร์เซนต์เท่านั้น หลักๆ คือนำมาใช้ด้าน facial recognition การเดินทาง การขนส่ง การเงิน เน้นความปลอดภัย แม่นยำ
ในมุมของ Megvii เอง มองว่า มีนักวิจัยกว่า 500 คนทำวิจัยแบบ full-time researchers มุ่งพัฒนาอัลกอริทึ่มให้ดีขึ้น บริษัทพัฒนา deep learning framework อย่าง MegEngine และ AI productivity platform Brain ++ เหมือนกับเป็นการเทรนนิ่งสมองของอัลกอริทึ่ม
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทพัฒนา open source MegEngine ให้นักพัฒนาเข้าถึงแพล็ตฟอร์ม เพื่อต่อยอดให้ AI แม่นยำขึ้น Megvii มุ่งพัฒนาเพื่อนำเสนอ full-stack AI solutions ผ่าน 3 มิติ personal internet of things, city IoT และ supply chain IoT เพื่อประโยชน์ในอุตสาหกรรม
และปัจจุบันมีการใช้ AI บนสมาร์ทโฟน ร้านค้าปลีก และการจัดการผังเมือง Megvii ปรับแผนกลยุทธ์ โดยผลักดัน supply chain management เพื่อต่อยอดไปสู่ digital transformation โดยมีระบบ "Hetu" เพิ่มประสิทธิภาพโลกิสติค เมื่อเดือนมกราคมปี 2019
และในช่วง COVID-19 ระบาด มีการนำ AI-enabled temperature-screening solutions มาใช้ตรวจวัดอุณหภูมิของมนุษย์ในสถานีรถไฟ มหาวิทยาลัย ช้อปปิ้งมอลล์ และสถานที่ต่างๆ ในประเทศจีน
โดย Megvii เป็นอันดับที่ 8 ของธุรกิจจีน ที่อยู่ใน US Entity List เมื่อเดือนตุลาคม 2019 (เรื่องเดียวกับ Huawei ที่ถูก US แบน)
แต่ Yin มองว่าการกีดกันของ US มีผลกระทบในระยะสั้น
Megvii นำพาธุรกิจแข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้า แต่รักษาเสถียรภาพในฮ่องกง โดยเข้า IPO ในฮ่องกง เมื่อเดือนสิงหาคม 2019