เอเบล เติ้ง (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประเทศไทย ต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ (ซ้ายสุด) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ สุชาติ ชมกลิ่น (ขวาสุด) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในระหว่างการเยี่ยมชมบูธของหัวเว่ยในงาน Job Expo Thailand ที่ไบเทค บางนา
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำ ประกาศพร้อมสนับสนุนภารกิจของประเทศไทยในการสร้างงานให้แก่นักศึกษาจบใหม่ และผู้ถูกเลิกจ้างงานในภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบายการสร้างงานในระยะยาวของกระทรวงแรงงาน หัวเว่ยได้เข้าร่วมงาน Job Expo Thailand 2020 มหกรรมการจัดหางานครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นำเสนอโอกาสในการทำงานและสร้างอาชีพที่มั่นคงแก่ผู้ที่กำลังหางาน ผ่านขั้นตอนการสมัครที่สะดวกและรวดเร็ว ที่บูธขนาด 60 ตารางเมตรของหัวเว่ย
อาเบล เติ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประเทศไทย ได้มีโอกาสต้อนรับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในระหว่างการเยี่ยมชมบูธต่างๆ
โดยในงานมหกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นโดยกระทรวงแรงงาน หัวเว่ยประกาศเปิดรับสมัครตำแหน่งงานจำนวนมากทั้งพนักงานแบบฟูลไทม์ และนักศึกษาฝึกงานที่แบบมีค่าตอบแทน ครอบคลุมสายงานในหลายส่วน อาทิ วิศวกรไอที/คลาวด์ การบริหารจัดการอีโคซิสเต็ม 5G การตลาด การขาย ทรัพยากรบุคคล การเงิน และประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้หัวเว่ยประกาศว่าในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารับสมัครนิสิตนักศึกษาจบใหม่เป็นจำนวนมากเพื่อมอบโอกาสการทำงานในช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับนักศึกษาจบใหม่
ในงาน Job Expo ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ณ ไบเทคบางนา มีตำแหน่งงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน จำนวนกว่า 1,000,000 อัตรา สำหรับผู้ที่พลาดงานดังกล่าว ยังสามารถค้นหาตำแหน่งงานของบริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ที่ยังเปิดรับอยู่ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์: ไทยมีงานทำ.com
แม้ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับปัญหาความท้าทายต่าง ๆ จากโรคโควิด-19 หัวเว่ยยังย้ำว่า อุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก “ทีมในประเทศไทยของเราเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี โดยจากข้อมูล ณ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทของเรามีการรับพนักงานจบใหม่เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปีก่อน” นายเอเบล เติ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของหัวเว่ย ประเทศไทย เผย “เรามุ่งหวังที่จะช่วยรัฐสร้างงานสร้างอาชีพให้มากขึ้นจากการเปิดบูธที่งาน Job Expo ในปีนี้ การสมัครงานผ่านขั้นตอนที่สะดวกรวดเร็วจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย เราพร้อมต้อนรับทั้งคนที่เพิ่งจบการศึกษาและผู้ที่มีประสบการณ์ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม สานต่อพันธกิจระยะยาวในการช่วยคนไทยขับเคลื่อนการทรานสฟอร์มด้านดิจิทัลของประเทศ” เขากล่าวเสริม
ปี 2562 ที่ผ่านมา หัวเว่ย ประเทศไทย ได้ฉลองครบรอบ 20 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศ บริษัทเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี 5G ที่มอบความเร็วในการเชื่อมต่อในระดับอัลตร้า เป็นตัวเร่งการใช้งานระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ ด้านการดูแลรักษาสุขภาพ อุตสาหกรรมการผลิต โทรคมนาคม และอีกมากมาย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ร่วมกับกระทรวงแรงงานสนับสนุนการสร้างทักษะใหม่ (ReSkill) และพัฒนายกระดับทักษะเดิมของแรงงานให้ดีขึ้น (UpSkill) รวมถึงได้มีการทุ่มทุนจำนวนมหาศาลในโครงการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีเพื่อช่วยประเทศไทยสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงป้อนเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ โครงการ หัวเว่ย อะแคเดมี่ ประเทศไทย ซึ่งได้จับมือร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่าง ๆ ที่เตรียมจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะช่วยบ่มเพาะบุคลากรด้านไอซีทีผ่านโครงการฝึกอบรมและการรับรองมาตรฐานวิชาชีพด้านไอซีที ประกาศนียบัตรชั้นนำในอุตสาหกรรมนี้จะเป็นใบเบิกทางด้านอาชีพในอนาคตให้แก่นักศึกษา เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ มองหาผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถที่นำมาปรับใช้ได้จริง
“ในช่วงที่ยากลำบาก ทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เราหวังว่าธุรกิจทุกภาคส่วนจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วระหว่างที่วิกฤตเศรษฐกิจกำลังค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ในระหว่างนี้ หัวเว่ย ตระหนักดีถึงหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคมในการช่วยพัฒนาบุคลากร เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มดิจิทัลที่สมบูรณ์ ผ่านการผนึกกำลังกับรัฐบาลไทย ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม และมหาวิทยาลัยมากมาย” ซีอีโอหัวเว่ย กล่าวทิ้งท้าย