เทนเซ็นต์ คลาวด์ ภายใต้เทนเซ็นต์ ประเทศไทย รุกตลาดคลาวด์ต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง “เทนเซ็นต์ คลาวด์ คอนเฟอเรนซ์” (Tencent Cloud Conference - TCC) โซลูชันเพื่อการจัดอีเวนต์ และการประชุมสัมมนาแบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทุกรูปแบบของทุกองค์กร ชูจุดเด่นจัดอีเวนต์-ประชุมสัมมนาทั้งแบบเสมือนจริง (Virtual Conference) และแบบผสมผสาน (Hybrid Conference) ได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มคลาวด์อัจฉริยะระดับโลก เอื้อให้ผู้จัดงานสามารถสร้างรูปแบบการมีส่วนร่วมกับผู้ร่วมงานได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการเดินทาง และช่วยให้การรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับดีมานด์การจัดอีเวนต์การประชุม นิทรรศการ และแสดงสินค้าในยุค New Normal
มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแนะนำ Tencent Cloud Conference (TCC) โซลูชันการประชุมออนไลน์ประสิทธิภาพสูงผ่านระบบเทนเซ็นต์ คลาวด์ เพื่อรองรับความต้องการของทุกองค์กรในการจัดประชุมทางธุรกิจ งานแสดงสินค้า ฟอรัมงานสัมมนาการบรรยายต่างๆ เป็นต้น ช่วยให้การบริหารจัดการประชุมทั้งแบบ Virtual Conference และ Hybrid Conference มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการในสเกลงานที่หลากหลายตั้งแต่ระดับองค์กรไปจนถึงระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาส และผลักดันให้ธุรกิจหรือแผนงานต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด”
ทำไมต้องเป็น ‘การจัดอีเวนต์หรือการประชุมแบบเสมือนจริง’ (Virtual Conference) หรือ ‘การประชุมแบบผสมผสาน’ (Hybrid Conference)
นอกจากจะช่วยให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายที่มาจากการเช่าพื้นที่ และการก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ แล้ว ยังเปิดให้ผู้จัดงานสามารถสร้าง และออกแบบวิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์ (Interactive) กับลูกค้าได้ตามต้องการ ผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมงาน Virtual conference จากทุกที่ ขณะที่การสื่อสารโต้ตอบระหว่างบุคคลยังคงมีอยู่ตามปกติ ทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ‘การจัดอีเวนต์หรือการประชุมแบผสมผสาน’ (Hybrid Conference) เป็นการผสานการจัดงานที่ผู้ร่วมงานได้พบปะกันจริงๆ (Live In-person Event) เข้ากับองค์ประกอบแบบเสมือนจริงของการจัดงานแบบออนไลน์ จึงเอื้อให้ผู้ที่อาจจะไม่พร้อมเข้าร่วมประชุม ณ สถานที่จัดงานเนื่องจากติดขัดเรื่องการเดินทางหรือเขตเวลายังสามารถมีส่วนร่วมในประชุมนั้นๆ ในรูปแบบออนไลน์ได้ด้วยเช่นกัน
มร. ชาง กล่าวเพิ่มเติมว่า “แนวโน้มการจัดงานต่างๆ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นการจัดงานแบบเสมือนจริง ซึ่งการจัดอีเวนต์หรือการประชุมแบบเสมือนจริง (Virtual Conference) และแบบผสมผสาน (Hybrid Conference) จะได้รับความสนใจมากขึ้นตามลำดับ อีกทั้งจะมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้กับผู้ร่วมงาน อาทิ การออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive live broadcasts) การใช้เทคโนโลยีวีอาร์ (VR – Virtual Reality) เทคโนโลยีเออาร์ 2.5 มิติ (AR – Augmented Reality 2.5D) และการนำเสนอบูธแบบ 3 มิติ (3D Booth) รวมถึงระบบสำหรับอำนวยความสะดวกในการจับคู่ทางธุรกิจ และการทำอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น”
Tencent Cloud Conference สามารถปรับแต่งโซลูชันได้ตามต้องการด้วยสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ที่สร้างขึ้นจากบริการที่มีอยู่แล้วของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ซึ่งมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพด้วยการปฏิบัติงานบนระบบคลาวด์ (On-cloud deployment) ตลอดจนสามารถเข้าถึง และมีบริการรองรับทั่วโลกผ่านโครงสร้างพื้นฐานของเทนเซ็นต์ คลาวด์ นอกจากนี้ Tencent Cloud Conference ยังสามารถรองรับงานประชุมเสมือนจริงประเภทต่างๆ ได้ตามต้องการจากการผสานใช้เทคโนโลยีเอไออัจฉริยะแบบ Built-in (Built-in AI Technology) ของเทนเซ็นต์ อาทิ เทคโนโลยีด้านการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่ช่วยให้ผู้ร่วมงานสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้อย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องมีการปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นที่หลากหลาย อาทิการถอดข้อความจากเสียง (Audio Transcription) นามบัตรอิเล็คทรอนิกส์ (Electronic Business Card) การแปลข้อความแบบเรียลไทม์ (Simultaneous Interpretation) การจัดศูนย์แสดงสินค้าเสมือนจริงแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Virtual Expo Hall) การจัดบูธและงานแสดงสินค้าเสมือนจริงพร้อมหน้าร้านอีคอมเมิร์ซ (Virtual Reality Booth and Expo with e-commerce storefront) การถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ เช่น การพรีเซ้นต์ผลงาน การอภิปราย หรือการแข่งขัน (Event Live Broadcasting) การเจรจาจับคู่ และการประชุมทางธุรกิจ (Business Matching and Meeting) การประชุมทางธุรกิจออนไลน์ (Online Business Meeting) ตลอดจนการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจัดงาน (Conference and Exhibition Data and Analytics) อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS, Android, Web และ WeChat Mini-Program
ตัวอย่างการใช้โซลูชัน Tencent Cloud Conference and Exhibition สนับสนุนการจัดงานในยุค New Normal
การจัดงานประชุม และแสดงสินค้า แบบ Hybrid Conference
การพบกันแบบตัวต่อตัวระหว่างผู้จัดแสดงสินค้า และผู้ร่วมงาน เพื่อสร้างโอกาสในการขยายเครือข่ายในธุรกิจต่างๆ ยังคงเป็นจุดประสงค์ของการจัดงานประชุม และแสดงสินค้า การผลักดันให้ภาคธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 การจัดงานแบบ Hybrid Conference จึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ในยุค New Normal นี้ เพราะช่วยเพิ่มความหลากหลายในการนำเสนอ และขยายโอกาสการเจรจาจับคู่ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น โดย Tencent Cloud Conference เป็นโซลูชันที่ช่วยสนับสนุนงานประชุมที่เกี่ยวกับการนำเข้า และส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์การแสดงผลิตภัณฑ์ผ่านการจัดแสดงสินค้าแบบออนไลน์ที่ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และการสาธิตสินค้าแบบ 3 มิติ รวมถึงยังสามารถใช้ Event Live Broadcasting ในการถ่ายทอดสดกิจกรรมทางการตลาดสำหรับร้านค้า และองค์กรต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยี Business Matching and Meeting และ Virtual Reality Booth and Expo with e-commerce storefront ในการอำนวยความสะดวกในการจับคู่ทางธุรกิจ และการทำอีคอมเมิร์ซที่จะช่วยให้ผู้ร่วมงานสามารถเจรจาทางธุรกิจไปจนถึงการปิดการซื้อ-ขายสินค้าและบริการได้สะดวก และครบวงจรมากยิ่งขึ้น
เทนเซ็นต์ คลาวด์ ได้รับการยอมรับและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศจีน และตลาดนานาชาติที่ต้องการใช้โซลูชันดิจิทัลเพื่อตอบรับยุคนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การที่เทนเซ็นต์ คลาวด์เข้าไปผู้ให้การสนับสนุนงาน World Intelligence Congress (WIC) ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีการใช้งาน Tencent Cloud Conference เพื่อรองรับผู้ร่วมงานผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 58.6 ล้านคนที่ชมพิธีเปิดงานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ กว่า 40 แพลตฟอร์ม และมีผู้ร่วมงานกว่าแสนคนที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก
“นอกจากโซลูชัน Tencent Cloud Conference ยังมีผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพให้การจัดงานแบบ Virtual Conference และ Hybrid Conference ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น VooV Meeting แพลตฟอร์มสำหรับประชุมออนไลน์ WeChat WeCom Mini Programs และบริการ AI อีกมากมาย ทั้งนี้ Tencent Cloud Conference รวมถึงผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ สำหรับการประชุมทั้งแบบ Virtual Conference และ Hybrid Conference ไม่ได้เป็นเพียงแค่การย้ายรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าแบบดั้งเดิมไปสู่รูปแบบออนไลน์ แต่ยังเป็นโซลูชันที่ให้บริการที่สร้างสรรค์มากขึ้นสำหรับงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ผ่านบริการคลาวด์ เครือข่าย 5G และเทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) โดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเปิดโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรม และการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน” มร. ชาง กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของบริการ Tencent Cloud Conference ได้ที่ www.tencent.co.th
