4 พ.ย. 2563 807 0

เน็ตแอพนำเสนอเทคโนโลยีการปรับปรุงประสิทธิภาพและบริการข้อมูลองค์กรสู่ระบบคลาวด์

เน็ตแอพนำเสนอเทคโนโลยีการปรับปรุงประสิทธิภาพและบริการข้อมูลองค์กรสู่ระบบคลาวด์

เน็ตแอพ (NASDAQ: NTAP) บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มุ่งเน้นข้อมูลและระบบคลาวด์ เปิดตัวโซลูชั่นแบบไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจสำหรับคอนเทนเนอร์จาก Spot by NetApp รวมถึงบริการข้อมูลและไฮบริดคลาวด์สตอเรจที่ทำงานแบบอัตโนมัติ และโซลูชั่นเวอร์ชวลเดสก์ท็อปบนระบบคลาวด์  เทคโนโลยีใหม่ของเน็ตแอพจะช่วยเพิ่มความสะดวกและปรับปรุงการจัดการระบบมัลติคลาวด์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และยังรองรับการเคลื่อนย้ายคลาวด์แอพพลิเคชั่นที่ใช้ข้อมูลจำนวนมากได้ยืดหยุ่นอย่างแท้จริง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นสถานที่ทำงานแบบครบวงจรบนสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์

จอร์จ คูเรียน ซีอีโอของเน็ตแอพ กล่าวว่า “เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในโลกวิถีใหม่ องค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงานสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะต้องปรับปรุงสถาปัตยกรรมไอทีแบบไฮบริดมัลติคลาวด์  ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ในขั้นตอนใดของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เน็ตแอพจะช่วยให้ลูกค้าสร้างเครือข่ายข้อมูลที่สามารถใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้แอพพลิเคชั่นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และปลดล็อคศักยภาพที่ดีที่สุดของระบบคลาวด์”

ฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน็ตแอพเปิดตัวในวันนี้ได้แก่:

โซลูชั่นแบบไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจสำหรับคอนเทนเนอร์ Spot Storage by NetApp ที่ผสานรวมเข้ากับ Spot Ocean by NetApp ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่องค์กรต่างๆ ในการสร้าง ติดตั้ง และรันแอพพลิเคชั่นที่ใช้ไมโครเซอร์วิสบน Kubernetes โดยไม่จำเป็นต้องจัดการดูแลสตอเรจและบริการข้อมูล

บริการข้อมูลและสตอเรจแบบอัตโนมัติ (รวมถึงการปกป้องข้อมูล การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการเคลื่อนย้าย) พร้อมใช้งานผ่านทาง NetApp® Cloud Manager  บริการนี้ช่วยให้สามารถตรวจสอบและควบคุมได้อย่างทั่วถึงบนสภาพแวดล้อมไฮบริดทั้งหมด ดังนั้นองค์กรจึงสามารถประหยัดทรัพยากรประมวลผลและสตอเรจได้ถึง 90%

บริการใหม่ NetApp Virtual Desktop Management Service (VDMS) บนระบบคลาวด์ พร้อมดีไซน์โครงสร้างพื้นฐานเวอร์ชวลเดสก์ท็อป (Virtual Desktop Infrastructure - VDI) บนไฮบริดคลาวด์ที่ผ่านการตรวจสอบรับรอง  โซลูชั่นเหล่านี้ช่วยให้องค์กรต่างๆ ปรับขนาดทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของบุคลากรที่ทำงานจากที่บ้านหรือนอกสถานที่ โดยจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เพิ่มความยุ่งยากซับซ้อน ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 50% เลยทีเดียว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นดังกล่าวได้ที่นี่

COMMENTS