ล่าสุด Starlink เริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ลูกค้าสามารถวางเงินมัดจำได้ทันทีโดยที่หากไม่ได้รับบริการสามารถคืนเงินเต็มจำนวน บริการดังกล่าวจะทำให้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มมากกว่า 10,000 คน
โดยสัญญาณในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมพร้อมให้บริการสหรัฐอเมริกา แคนาดาและสหราชอาณาจักร ในราคาเพียง 99 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
เว็บไซต์ Starlink ระบุว่า สามารถคืนเงินได้เต็มจำนวน คำสั่งซื้ออาจใช้เวลา 6 เดือนขึ้นไปจึงจะสำเร็จขึ้นอยู่กับสถานที่ในการใช้บริการ
ที่ผ่านมาทาง SpaceX ได้เผยแพร่เอกสาร Starlink เกี่ยวกับแผนการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 10000 ดวง เพื่อตอบสนองโครงการ Rural Digital Opportunity Fund (RDOF) เพื่อสนับสนุนการให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบท จากการสนับสนุนทางการเงินโดยรัฐบาลท้องถิ่น ให้บริการค่า Latency ต่ำ ไม่เกิดความดีเลย์ของสัญญาณมากจนเกินไป โดยทาง Starlink พร้อมให้บริการความเร็ว 100/20 Mbps ค่า Latency ต่ำกว่า 31 ms
ซึ่งในขณะนี้ทาง Starlink พร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ตรวมดาวเทียมมากกว่า 4,400 ดวง และในวงโคจรระดับต่ำของโลก (LEO) คือ 1,000 ดวง
FCC ยังได้รับรองอุปกรณ์ของลูกค้า Starlink รวมถึงอะแดปเตอร์และเราเตอร์ Wi-Fi
สำหรับการรับส่งสัญญาณดาวเทียม
โดยการรับส่งสัญญาณระหว่าง Starlink กับ Gateway โดย Downlink ใช้ความถี่ 17.8 - 19.3 GHz และ Uplink ใช้ความถี่ 27.5 - 30.0 GHz
Starlink กับ Starlink ( CPE ) โดย Downlink ใช้ความถี่ 10.7- 12.7 GHz และ Uplink ใช้ความถี่ 14.0 - 14.5 GHz
การให้บริการอินเทอร์เน็ตในปีนี้ 2564 ทำได้เพียงพอในการให้บริการเชิงพาณิชย์แบบจำกัดพื้นที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและอังกฤษ ผ่านโครงการ “ Better Than Nothing Beta”
ซึ่งกลุ่มดาวเทียมดังกล่าวมีค่า Ping อยู่ประมาณ 20-40ms (มิลลิวินาที) โดยมีความเร็วในการเชื่อมต่ออยู่ที่ 50-150 Mbps สามารถใช้งานได้อย่างไม่จำกัด โดยต้องมีฮาร์ดแวร์เช่นมีจานเทอร์มินัลเราเตอร์ มารองรับการใช้งาน ซึ่งผู้สมัครใจต้องจ่ายค่าอุปกรณ์เป็นจำนวน 499 เหรียญดอลล่าสหรัฐหรือประมาณ 15,600 บาท และต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนเป็นจำนวน 99 เหรียญดอลล่าสหรัฐต่อเดือนหรือ 3,100 บาทต่อเดือน ซึ่งถือเป็นค่าบริการรายเดือน
ซึ่งราคาดังกล่าวไม่ได้ถือเป็นราคาที่ถูกเลย เมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้รับในภาคพื้นดิน
ความเร็วที่ได้รับเกิดจากความเร็วที่เชื่อมต่อระดับความสูง 560 กิโลเมตรจากระดับภาคพื้นดิน สิ่งเหล่านี้มีเลเซอร์เชื่อมระหว่างดาวเทียม โดยมีระบบ AI ที่สามารถปรับทิศทางการรับคลื่นสัญญาณดาวเทียมได้
Michael Sheetz ผู้สื่อข่าว Space Reporter ของ CNBC ระบุข้อมูลที่ชัดเจน SpaceX พร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมอยู่ที่ 100Mbps แต่ใน "อนาคต" จะสูงถึง 10Gbps ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้แบบไม่จำกัด โดยข้อมูลนี้เป็นเอกสารที่ส่งให้ FCC หรือ หน่วยงานที่กำกับดูแลโทรคมนาคมของประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้ adslthailand ได้รายงานข่าวมาก่อนหน้าหลายปีแล้ว ในโครงการของ Elon Musk แต่ครั้งนี้เรียกได้ว่าล้ำหน้าอย่างมาก เพราะใช้เทคโนโลยีดาวเทียมวงโคจรต่ำ มาให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมมีมายาวนาน โดยที่ผ่านมาเป็นการใช้ดาวเทียมวงโครจรสูง ประมาณ 36,000 กิโลเมตรจากพื้นโลก เช่น ดาวเทียมไทยคม
ซึ่งความเร็วในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของ Starlink เมื่อใช้งานจริงได้รับความเร็ว 100 - 150 Mbps ใกล้เคียง 4G ในปัจจุบัน latency 39ms แต่ก็ยังห่างไกลจาก 5G ในช่วงเฟสแรกดาวเทียมยังน้อย ให้บริการบางพื้นที่เท่านั้น ในปัจจุบันกล่มดาวเทียมดังกล่าวมีจำนวน 800 ดวงทั่วโลก แต่ยังสามารถพัฒนาดาวเทียมได้สูงสุด 42,000 ดวง ข้อดีคือทำ latency ต่ำ และเชื่อมดาวเทียมข้ามทวีปได้
การเปิดให้จองสิทธินั้น ทำโดยตัดเงินผ่าน ApplePay หรือบัตรเครดิต และมี Refundable คืนเงินให้ถ้าไม่สามารถใช้บริการได้ เนื่องจากต้องมีการขออนุญาตและขึ้นอยู่กับหน่วยงานของประเทศนั้นๆ
สิ่งที่น่าจับตาคือ การหารือเตรียมให้ใบอนุญาติในอนาคตกับ Starlink ของกสทช.เพื่อให้สามารถเข้ามาให้บริการในประเทศไทย แต่ในภูมิภาคจะต้องขึ้นอยู่กับ Regulatory ของแต่ละภูมิภาคนั้นตามที่กล่าวมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ MuSpace ธุรกิจอวกาศในประเทศไทย ได้มีการพูดคุยกับ TOT (ในปัจจุบัน คือ บริษัท โทรคมนาคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT) เพื่อทำ Space Data Center โดยอนุมัติงบให้ NT สร้างโครงการของ MuSpace ใช้ดาวเทียมคล้ายกับ SpaceX โดยไม่ได้ร่วมมือกับ Starlink แต่เป็นการแข่งขันกับ Starlink ใช้เทคโนโลยีคล้ายกัน โดยอนุมัติงบ 10,000 ล้านบาทให้ NT ในการสร้างโครงการของ MuSpace ลักษณะดาวเทียมคล้าย SpaceX ให้บริการ 11 สถานีฐาน ซึ่งมีการปล่อยดาวเทียมไปบางส่วนแล้ว
และน่าจับตาว่า ในประเทศไทย อาจจะทำได้เองหรือไม่ โดย MuSpace ร่วมมือกับ NT ในขณะที่อินเทอร์เน็ตประเทศไทยครอบคลุม 4G และ 5G อยู่แล้ว ยังจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตดาวเทียมด้วยหรือ แต่หากมองด้านการครอบคลุมในพื้นที่ห่างไกล การลงทุนจะคุ้มค่าเพียงใด จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตดาวเทียมมากแค่ไหน เป็นสิ่งที่น่าติดตามกันต่อไป
นอกจากนี้ล่าสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ออกมาให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวแล้ว ที่มา : https://www.facebook.com/145793628809398/posts/3653061308082595/ โดยระบุว่า การจะให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมต่างชาติในประเทศไทยนั้น ผู้ให้บริการจำเป็นจะต้องได้รับการอนุญาตจาก กสทช. ก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งหากมีความคืบหน้าเราจะนำเสนอในลำดับถัดไป
ข้อมูล tecnoblog ispreview thesheetztweetz telecompetitor tecnoblog ispreview thesheetztweetz reddit