บริษัท ไลท์เวิร์ค เทค จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบการทำงานอัตโนมัติ (RPA) รายแรกของประเทศไทยคว้ารางวัลชนะเลิศ 2 รางวัล จากโครงการประกวดซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ (Thailand ICT Awards 2020 : TICTA 2020) จัดโดย สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (The Association of Thai ICT Industry : ATCI) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) โดยกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้แนวคิด “Digitalization for New Normal” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา และยกระดับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เฟ้นหาผู้มีความรู้ความสามารถด้านอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ทุกระดับ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในระดับนานาชาติ

โดยบริษัท Lightwork ได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 2 รางวัล ในหมวด Start Up และ รางวัลชนะเลิศ ในหมวด Business Services (ICT Services and Security Solutions) ซึ่งจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการไปแข่งขันในระดับ Asia Pacific

ภาดารี อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lightwork กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลว่า รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติมากที่ Lightwork ได้รับรางวัลถึง 2 รางวัล เนื่องจากมีเข้าผู้แข่งขันที่มีศักยภาพเข้าร่วมการแข็งขันเป็นจำนวนมาก ต้องขอบคุณทีมงานที่ช่วยกันสร้าง Lightwork ขึ้นมาด้วยกันจนถึงวันนี้ และขอบคุณกรรมการทุกท่านสำหรับข้อแนะนำให้  Lightwork พัฒนาได้ดียิ่งขึ้น และเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของ Lightwork การได้รับรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นกำลังใจให้ทีมบริษัทของ Lightwork มุ่งมั่นพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

ภาดารี อุตสาหจิต กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของ Lightwork ว่า บริษัท Lightwork ต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยบริษัทในประเทศไทยและเอเชียทำ Digital Transformation ด้วยการนำเทคโนโลยีซอฟท์แวร์โรบอตมาช่วยงานคน ให้คนทำงานสบายขึ้น ผสานเทคโนโลยีด้านต่างๆ ทั้งโรบอตออโตเมชั่น และทั้งปัญญาประดิษฐ์ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ภาคธุรกิจ และบริการสามารถเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพ ประสิทธิผล   พร้อมประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นอุตสาหกรรมประกัน สาธารณสุข และการค้า อีกจุดมุ่งหมายหนึ่งของ Lightwork คือต้องการเป็นซอฟท์แวร์ของคนไทยที่มีคุณภาพ มีศักยภาพ เป็นที่ยอมรับ ไปแข่งขันระดับโลกได้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนไทยเก่ง และสามารถทำได้เหมือนกัน

“Lightwork  เป็นนวัตกรรมซอฟต์แวร์ด้าน Robot Automation ที่ใช้งานง่าย และได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์บริษัทในประเทศไทยโดยเฉพาะ  โดยผู้ใช้สามารถ Drag-and-Drop ให้ระบบจะทำการสร้างหุ่นยนต์เสมือนหรือแรงงานดิจิตัลได้อย่างไม่จำกัดเพื่อช่วยทำงานตามที่วางแผนไว้  สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์โดยตรง โอกาสในการทำงานผิดพลาดต่ำ  ทำงานได้ตลอดเวลา 24 ชม.  ลดต้นทุนด้านค่าใช้จ่าย  และเปิดโอกาสให้บุคลากรได้ทำงานที่ใช้ศักยภาพได้มากขึ้น ที่สำคัญคือ สามารถใช้ Lightwork ปรับปรุงการทำงานได้ทันที  ไม่กระทบกับระบบการทำงานที่ทำอยู่  สามารถโอนย้าย migrate ข้อมูลต่างๆได้  แม้จะมีซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้การที่การเข้าถึงโดยบุคคลน้อยลง  จะทำให้การรักษาความลับขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย”

ภาดารี อุตสาหจิต กล่าวเพิ่มเติมถึงรางวัล TICTA 2020 ว่า เวทีนี้มีรางวัลหลากหลายประเภทนอกจากรางวัลสำหรับบริษัทแล้ว ยังมีรางวัลส่วนของนักเรียนนักศึกษาด้วย เชื่อว่ารางวัลนี้จะเป็นแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่สนใจด้านเทคโนโลยี ให้กล้าคิด กล้าทดลอง กล้าลงมือทำ และได้แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงเป็นการสร้างเน็ตเวิร์คในกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งจะช่วยต่อ ยอดด้านธุรกิจและการตลาดต่อไปอีกด้วย

สามารถติดต่อ Lightwork ได้ที่ contact@lightworktech.com

ข้อมูลบริษัท

Lightwork ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระบบการทำงานอัตโนมัติ (RPA) รายแรกของประเทศไทย โดยการผสานหลายเทคโนโลยีด้านต่างๆรวมทั้งปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาขึ้นเพื่อให้ภาคธุรกิจและบริการสามารถเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพพร้อมประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม ก่อตั้งโดยทีมงานผู้บริหารคนรุ่นใหม่  

ภาดารี อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำเร็จการศึกษา MBA จาก Harvard Business School และมีประสบการณ์การทำงานด้านซอฟต์แวร์และดิจิตัลทั้งใน และต่างประเทศ          

เดช ศรีเฟื่องฟุ้ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ สำเร็จการศึกษาด้าน Operations research จาก Columbia University   มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจ

พาสูง ส่งศักดิ์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี สำเร็จการศึกษาด้าน Computer Engineering จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   เคยร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเช่น  Huawei Technologies และกลุ่มนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ระดับโลกมาแล้ว

โดยคณะผู้บริหารมีความมุ่งมั่นพัฒนาให้ ‘Lightwork’ เป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นกุญแจสำคัญในการพากลุ่มธุรกิจไทยให้มีความ Super Productive ก้าวไปสู่ในยุคแห่ง The age of data and digital disruption.