บริการด้านสื่อสารทั้งค่าโทรรายเดือนและรายจ่ายบริการอินเทอร์เน็ตเป็นต้นทุนของทุกธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการในยุคนี้ ดีแทคจึงออกแบบแพ็กเกจ WorryFree
SIM แรกในไทย ที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถทบปริมาณดาต้าที่ใช้ไม่หมดในเดือนปัจจุบัน
ไปใช้เพิ่มในเดือนถัดไปได้อีก พิเศษสุด! เมื่อซื้อซิมธุรกิจ WorrFree ผ่าน E-store รับฟรีเน็ต 10
GB พร้อมใช้บริการดีแทควันคอลฟรี 1 เดือน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://estore.dtac.co.th/
ราจีฟ
บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส
คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “dtac
Business เข้าใจเจ้าของธุรกิจที่ต้องรับมือกับการแข่งขันทางการตลาดที่ดุเดือด
อยู่ภายใต้ความกดดันในการบริหารต้นทุนเพื่อให้แข่งขันได้
และยังต้องลงทุนเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ
ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริหาร การบริหาร
“ต้นทุนในการประกอบการ” จึงเป็นสิ่งท้าทายที่สุดและสามารถสร้างความได้เปรียบให้ผู้ประกอบการได้
จากสถิติการใช้งานดาต้าของลูกค้าดีแทคกลุ่มธุรกิจพบว่า
ลูกค้ามีปัญหาใช้ดาต้าในแพ็กเกจไม่หมด
เหลือดาต้าที่ไม่ได้ใช้งานต่อเดือนโดยเฉลี่ยมากถึง 50% ทั้งนี้ ดีแทคจะอัพเกรดทบเน็ตให้โดยอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าดีแทคกลุ่มธุรกิจเริ่มเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป”
3 ปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจยุควิถีใหม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น
1. ความจำเป็นที่ทุกคนต้อง Work from Home ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตในการสื่อสาร
การประชุมของพนักงาน การติดต่อให้บริการลูกค้า ต้องอยู่บนออนไลน์ตลอดเวลา ธุรกิจต้องปรับตัวรับกับวิถีชีวิตใหม่โดยทำงานติดต่อลูกค้าและเพื่อนร่วมงานที่บ้าน
จากสถิติการใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อสร้างผลผลิตและการทำงานร่วมกัน ในเครือข่ายดีแทค
โดยเฉพาะในช่วงการล็อคดาวน์เข้มข้น เดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2563 พบว่า Zoom มีการใช้เพิ่มขึ้น 38 เท่าบนเครือข่ายดีแทค
และใช้ Line call เพิ่มขึ้น 19.2%
2. การทำตลาดบนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ทุกธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วย
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต้องมีการ Live ขายสินค้า
รีวิวสินค้า สร้างคอนเท้นท์ใหม่ๆ ที่โน้มน้าวให้เกิดการขายจาก Facebook
Instagram Line LinkedIn การทำตลาดด้วยอีเมล์
ซึ่งทุกกิจกรรมที่ทำบนอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการส่งต่อข้อมูล หรือดาต้า
ข้อมูลการใช้ดาต้าของดีแทคพบว่า การใช้ Facebook ส่งภาพนิ่ง
วิดีโอ เสียงและตัวอักษรเพียง 1 นาที ใช้ดาต้า 3 MB/นาที Instagram ใช้มากกว่า 6.7
MB/นาที ถ้าใช้แพลตฟอร์มวิดีโอ Vimeo ที่ผลิต ตัดต่อ อัปโหลด การรับชม การทำ Live Streaming ยิ่งใช้ดาต้ามากขึ้น Vimeo ที่มีความละเอียดของภาพแบบ 720P เพียง 40 นาที ต้องใช้ดาต้ามากถึง 1GB
3. การใช้งานแอปพลิเคชั่นออนไลน์ที่ช่วยเสริมประสิทธิผลในการทำธุรกิจ
ช่วยให้การทำงานได้สะดวกรวดเร็วทุกที่ ทุกเวลาจากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เช่น ระบบช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร
ช่วยจัดการทุกขั้นตอนของการขายสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่ การแชท รับออเดอร์
ช่องทางการชำระเงิน การจัดส่ง และสต็อกสินค้า ระบบบริหารงานบุคคล ระบบบัญชี
ระบบเงินเดือน คำนวณเวลาทำงาน ซึ่งต้องใช้การเชื่อมต่อข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
ทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวข้างต้นเป็นตัวเร่งให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ต้องใช้ดาต้ามากขึ้น ซึ่งแพ็กเกจ WorryFree
SIM เป็นแพ็กเกจซิมธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจได้ครบครัน
โดยไม่มีสัญญาผูกมัดการใช้งาน โทรฟรีได้ทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ให้ดาต้าใช้งานได้อย่างจุใจ
เป็นทางเลือกที่ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุน
ช่วยแก้ปัญหาที่บางเดือนใช้ดาต้าน้อยก็สามารถเก็บดาต้าที่เหลือทบไปใช้ในเดือนถัดไปได้
ดีแทค บิสิเนส ยังมีบริการ self-service เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ให้บริการ E-care และ E-Store ที่ให้ลูกค้าธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยน
และจัดการแพ็กเกจและการจ่ายค่าบริการต่างๆได้ด้วยตัวเอง และยังเปิดตัว Business
call center สำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะเพื่อให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย
สบายใจในการจัดการและติดต่อการได้รับความช่วยเหลือทางทีมงาน สอบถามเพิ่ม โทร 1431 หรือ www.dtac.co.th/business