1 มิ.ย. 2564 522 0

Gartner เผยมูลค่าใช้จ่ายไอทั่วโลกปี 64 สูงแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Gartner เผยมูลค่าใช้จ่ายไอทั่วโลกปี 64 สูงแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากข้อมูลในระดับ Global แล้ว การ์ทเนอร์ยังได้รวมรวบข้อมูลตัวเลขคาดการณ์เฉพาะของประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญและข้อมูลตามนี้

  • มูลค่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยปี 2564 เติบโต 4.9% และจะขยับเป็น 5.7% ในปี 2565 
  • การใช้จ่ายในทุกเซกเมนต์จะกลับมาเติบโตทั้งหมด (ตามตารางด้านล่าง) 
  • ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะเติบโตสูงสุดที่ (13.2%) ตามด้วยอุปกรณ์ดีไวซ์ (11.3%) จากการพัฒนาและการขยายตัวของรูปแบบการทำงานจากระยะไกล

ตารางคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีของประเทศไทย (หน่วย: ล้านบาท) 

 

มูลค่าการใช้จ่าย

 

ปี 2563 

มูลค่าการเติบโต

 

ปี 2563 (%)  

มูลค่าการใช้จ่าย

 

ปี 2564

มูลค่าการเติบโต

 

ปี  2564 (%)  

มูลค่าการใช้จ่าย 

 

ปี  2565

มูลค่าการเติบโต

 

 ปี 2565 (%)

ดาต้าเซ็นเตอร์ 

23,904

-3.8%

25,192

5.4%

26,281

4.3%

ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร 

40,653

0.8%

46,023

13.2%

50,000

8.6%

อุปกรณ์ดีไวซ์

162,963

-15.2%

181,386

11.3%

196,522

8.3%

บริการทางด้านไอที 

62,212

-0.1%

62,825

1.0%

66,573

6.0%

บริการด้านการสื่อสาร 

359,084

-0.8%

364,913

1.6%

379,603

4.0%

มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด 

648,816

-4.8%

680,339

4.9%

718,980

5.7%


การ์ทเนอร์เผยแนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2564 สูงแตะ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.4% จากปี 2563 โดยแหล่งที่มาของเงินทุนเพื่อเริ่มธุรกิจดิจิทัลใหม่ ๆ นั้นมาจากแผนกธุรกิจอื่นๆ นอกแผนกไอที และคิดเป็นต้นทุนการผลิตหรือต้นทุนการขาย (COGS)

จอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ กล่าวว่า “ไอทีไม่เพียงแต่ปรับโฉมรูปแบบการดำเนินงานขององค์กรไปสู่สิ่งใหม่ ๆ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งมอบและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ นอกเหนือจากการพลิกบทบาทจากการทำงานเบื้องหลังไปสู่ส่วนหน้าของธุรกิจแล้ว ไอทียังเปลี่ยนต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กลายเป็นแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ อาทิ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ การติดตามตรวจสอบ และบางครั้งตัดต้นทุนบางอย่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้องค์กรมุ่งเน้นในสิ่งที่สร้างรายได้”

การ์ทเนอร์คาดว่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทุกเซกเมนต์จะเติบโตต่อเนื่องไปถึงปี 2565 (ดูตารางที่ 1) อุปกรณ์ดีไวซ์จะเติบโตสูงสุด (14%) ขณะที่ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรเติบโต (10.8%) เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกลเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ทีมงาน

ตารางที่ 1. คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลก (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

 

มูลค่าการใช้จ่าย

 

ปี 2563 

มูลค่าการเติบโต

 

ปี 2563 (%)  

มูลค่าการใช้จ่าย

 

ปี 2564

มูลค่าการเติบโต

 

ปี  2564 %)  

มูลค่าการใช้จ่าย 

 

ปี  2565

มูลค่าการเติบโต

 

 ปี 2565 (%)

ดาต้าเซ็นเตอร์ 

219,940

2.3

236,806

7.7

247,513

4.5

ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร 

466,647

-2.1

516,872

10.8

571,725

10.6

อุปกรณ์ดีไวซ์

663,223

-6.9

755,798

14.0

778,949

3.1

บริการทางด้านไอที 

1,021,187

-1.8

1,112,626

9.0

1,193,461

7.3

บริการด้านการสื่อสาร 

1,386,471

-0.7

1,450,444

4.6

1,504,743

3.7

มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด 

3,757,468

-2.2

4,072,547

8.4

4,296,391

5.5


การ์ทเนอร์ (เมษายน 2564)

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ องค์กรให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกับทั้งประสบการณ์และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการลงทุนด้านเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ แห่งอนาคต อาทิ โซเชียลซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มทำงานร่วมกัน และซอฟต์แวร์การบริหารทุนมนุษย์ในองค์กร (HCM)

แม้ความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดต้นทุนจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากความแน่นอนทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นในปี 2564 แต่สิ่งที่ซีไอโอให้ความสำคัญตลอดในช่วงเวลาที่เหลือของปี คือ การเร่งดำเนินการตามแผนธุรกิจดิจิทัลเพื่อยกระดับการดำเนินงาน ขยายและเปลี่ยนแปลงคุณค่าในการดำเนินงานของบริษัท

“ปีที่แล้ว การลงทุนด้านไอทีเป็นไปตามสภาวะการณ์ที่จำเป็น เพื่อเร่งเปิดใช้ระบบการทำงานจากระยะไกลให้พนักงานภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่รูปแบบการทำงานไฮบริดนั้นเกิดขึ้น ซีไอโอจะมุ่งให้ความสำคัญไปกับการใช้จ่ายไอทีที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมไม่ใช่เพียงทำงานให้สำเร็จลุล่วง” นายเลิฟล็อคกล่าวเพิ่มเติม

การใช้จ่ายไอทีกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการระบาดแต่มีความต่างออกไป

การฟื้นตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ และกลุ่มไอทีในประเทศต่าง ๆ ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในรูปแบบ K-Shape จากมุมมองในระดับอุตสาหกรรม ภาคการเงินการธนาคาร หลักทรัพย์และการประกันภัยจะฟื้นตัวกลับมาในระดับเดียวกับช่วงก่อนการระบาดเมื่อต้นปี 2564 ขณะที่กลุ่มค้าปลีกและภาคการขนส่งจะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2566

การใช้จ่ายด้านไอทีในภูมิภาคละตินอเมริกาคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2567 ขณะที่ประเทศจีนกลับมาอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับปี 2562 ส่วนภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกคาดว่าจะฟื้นตัวได้ช่วงปลายปีนี้

ชมผลวิเคราะห์อย่างละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกที่เว็บบินาร์ของการ์ทเนอร์ ในหัวข้อ "IT Spending Forecast, 1Q21 Update: How the Winners are Winning."  เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มใหม่ ๆ ความท้าทายธุรกิจในอนาคต และแนวทางปฏิบัติสำหรับซีไอโอรวมถึงผู้นำไอทีในอีบุ๊คของการ์ทเนอร์ “Top Priorities for IT: Leadership Vision for 2021.

การคาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ ใช้วิธีการวิเคราะห์ยอดขายอย่างเข้มข้นจากผู้ค้าหลายพันรายครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีทั้งหมด การ์ทเนอร์ใช้เทคนิคการวิจัยขั้นต้นซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่เชื่อถือได้ในการสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมข้อมูลขนาดตลาดซึ่งเป็นฐานการพยากรณ์

การคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ รายไตรมาสนำเสนอมุมมองที่แตกต่างครอบคลุมกลุ่มฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการทางด้านไอทีและในกลุ่มของการสื่อสารโทรคมนาคม รายงานเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าของการ์ทเนอร์ ตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายทางการตลาด  ลูกค้าของการ์ทเนอร์สามารถอ่านรายงานการคาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุดได้จาก  Gartner Market Databook, 1Q21 Update  การคาดการณ์การใช้จ่ายไอทีไตรมาสนี้รวมลิงก์ข้อมูลของรายงานการใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุด webinar blog posts และข่าวประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ไว้ด้วย