ที่งาน Mobile World Congress 2021 ที่ผ่านมา ไอบีเอ็ม (NYSE:IBM) ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ไฮบริดคลาวด์ออโตเมชันพลังเอไอ(AI-powered) สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (communications service providerหรือ CSP) เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการก้าวล้ำให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว บนพื้นฐานของการปฏิบัติการแบบ zero-touch และต้นทุนที่ต่ำลง การใช้IBM Cloud Pak for Network Automationช่วยให้ CSP สามารถให้บริการและบริหารจัดการเน็ตเวิร์คได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าในสภาพแวดล้อมแบบใด ช่วยให้สามารถเปิดตัวบริการใหม่ๆ ได้ในไม่กี่วันแทนที่จะต้องใช้เวลาเป็นเดือน
CSP ถือเป็นกลจักรสำคัญของประชาชนและองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เหตุไม่คาดคิดสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความต้องการใช้เน็ตเวิร์คและแพทเทิร์นของทราฟฟิคCSP ชั้นนำที่สำรวจโดยสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBV)มองว่าการส่งบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดสำหรับต่อความสำเร็จของโครงการด้านออโตเมชัน[1]
"ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจำนวนมากพยายามทรานส์ฟอร์มเน็ตเวิร์คให้เป็นแพลตฟอร์ม software-defined เพื่อให้สามารถสร้างคุณค่าจาก 5G และระบบประมวลผลแบบ edge ได้มากที่สุด แต่ข้อจำกัดด้านออโตเมชันและการขาดมุมมองครอบคลุมทุกเน็ตเวิร์คแบบเรียลไทม์กลายเป็นข้อจำกัดของการสร้างนวัตกรรมบริการใหม่ๆ ที่เร็วพอให้กับลูกค้า” นายแอนดรูว์ โควาร์ด กรรมการผู้จัดการ งาน Software Defined Networking ของไอบีเอ็ม กล่าว “ซอฟต์แวร์ Cloud Pak for Network Automation ใหม่ของไอบีเอ็มได้ใช้ออโตเมชันพลังเอไอเพื่อให้ตอบโจทย์ดีมานด์ที่กำลังเติบโตนี้ เพื่อให้CSP สามารถเปิดบริการใหม่ๆ ในแบบ zero-touch ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการฟังก์ชันของเน็ตเวิร์คง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์หลักหรือที่ edge
IBM Cloud Pak for Network Automation บน Red Hat OpenShift ที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้บนสภาพแวดล้อมที่หลากหลายนี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์ออโตเมชันพลังเอไอเต็มรูปแบบ เพื่อการเปิดใช้บริการ 5G และ edgeผ่านฟังก์ชันเน็ตเวิร์คแบบmulti-vendor software-based ที่สนับสนุนก้าวย่างสู่การปฏิบัติการแบบอัตโนมัติเต็มตัว โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวผสานเทคโนโลยีอนาไลติกส์แมชชีนเลิร์นนิง และAIOps ที่ก้าวล้ำ เพื่อช่วยให้ CSP สามารถเห็นแพทเทิร์นและเทรนด์ข้อมูลบนเน็ตเวิร์คที่ซ่อนอยู่ ทำให้สามารถปรับระบบปฏิบัติการและประสิทธิภาพให้เหมาะสมที่สุดโดยใช้คนเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุด การผนวกเอา IBM Cloud Pak for Watson AIOps และโซลูชัน edge ที่รวมถึง IBM Edge Application Manager เข้ามาด้วย ช่วยให้ CSP สามารถออโตเมทการส่งมอบทรัพยากรไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างฉับไว
1. การทำโมเดล Network Lifecycle:ช่วยสร้างและออโตเมทโมเดลการวิเคราะห์เวนเดอร์ในฟังก์ชันเน็ตเวิร์คทั้งแบบฟิสิคัล เวอร์ชวล และคอนเทนเนอร์
2. การทำ Orchestrationแบบ Intent-driven:การกำหนดโมเดลการปฏิบัติการของเน็ตเวิร์คในแบบที่ต้องการได้แบบอัตโนมัติ แทนที่จะเป็นการสร้างเวิร์คโฟลว์จากรูปแบบที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้าแล้ว
3. การออกแบบและทดสอบบริการอัตโนมัติ: การออโตเมทบริการและทรัพยากรที่เกี่ยวเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมสำหรับการทดสอบ pre-production และโปรดัคชัน
4. มุมมองการทำงานเน็ตเวิร์คแบบเรียลไทม์: การเห็นภาพการทำงานของเน็ตเวิร์คและระบบคลาวด์ทั้งหมดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์เน็ตเวิร์คอัพไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสามารถออโตเมทการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เร็วขึ้น
5. การปฎิบัติการแบบ Closed-loop: การผนวก IBM Cloud Pak for Watson AIOps เข้ามา ทำให้ CSP สามารถทราบฟีดแบ็คทั้งลูป ในขณะที่ใช้การปฏิบัติการแบบ Zero-touch หรือ lights-out
IBM Cloud Pak for Network Automation ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้วิศวกรเน็ตเวิร์คสามารถเปิดบริการแต่ละจุดได้ในเวลาเพียง 4-5 วัน ช่วยจัดระเบียบและผสานฟังก์ชันเน็ตเวิร์คนับร้อยพันรายการแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดชื่อโฮสต์ พอร์ทเซิร์ฟเวอร์ สถาปัตยกรรมของเน็ตเวิร์ค ผู้ใช้ แผน IP address เป็นต้นนำสู่บริการเน็ตเวิร์คแบบองค์รวม
ไอบีเอ็มยังวางแผนที่จะใช้ศักยภาพด้านอนาไลติกส์และการมอนิเตอร์ที่จำเป็นสำหรับการทำเน็ตเวิร์คเวอร์ชวลแบบออโตเมทของTurbonomicที่ไอบีเอ็มได้เข้าซื้อกิจการเมื่อเร็วๆ นี้โดยวางแผนจะให้บริการIBM Cloud Pak for Network Automation ที่มาพร้อมกับการบริหารจัดการประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์คจาก Turbonomicโดย Turbonomic มีความสามารถในการย่อยข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลปริมาณมหาศาลเพื่อประมวลออกมาเป็นมุมมองประสิทธิภาพและบริการเชิงลึกสำหรับการบริหารจัดการงานปฏิบัติการในแต่ละวัน การผนวกความสามารถดังกล่าวเข้ามาจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้การวิเคราะห์เพื่อเข้าถึงเน็ตเวิร์คที่แนะนำได้
IBM Cloud Pak for Network Automation เป็นส่วนหนึ่งของ IBM Automation ซึ่งเป็นกลุ่มบริการออโตเมชันที่สนับสนุนโดยอีโคซิสเต็มพาร์ทเนอร์กว่า30 ราย เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถออโตเมทภาระงานซ้ำๆ ได้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะสามารถปรับโฟกัสไปยังงานที่เพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรมากกว่า โดยการเปิดตัวในวันนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปิดตัว IBM Watson Orchestrateเพื่อนำออโตเมชันพลังเอไอเข้าสนับสนุนบุคลากรในองค์กรธุรกิจ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ Turbonomic, myInvenio, InstanaและWDG Automationเพื่อสร้างพอร์ทโฟลิโอซอฟต์แวร์ออโตเมชันพลังเอไอแบบครบวงจร เพื่อทรานส์ฟอร์มกระบวนการทางธุรกิจและการปฏิบัติการด้านไอที
IBM Cloud Pak for Network Automation สร้างขึ้นบน Red Hat OpenShift® และสามารถรันบนสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดมัลติคลาวด์และมัลติเวนเดอร์ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเน็ตเวิร์คของเวนเดอร์ที่หลากหลาย รวมถึงเน็ตเวิร์คแบบ edge ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM Cloud Pak for Network Automation ได้ที่ https://www.ibm.com/cloud/cloud-pak-for-network-automation
ข้อมูลอ้างอิง
[1] IBM Institute for Business Value “Re-envisioning the CSP network” report