ทรูออนไลน์ ครองแชมป์ 4 ปีซ้อน บนเวที World Branding Awards ประเทศอังกฤษ คว้ารางวัล “สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2020-2021” ย้ำภาพผู้นำที่มุ่งยกระดับมาตรฐานบริการบรอดแบนด์เมืองไทยมาตลอด ชูจุดเด่นผู้นำดิจิทัลเทคโนโลยี ใช้ AI วิเคราะห์ตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายก่อนลูกค้าแจ้งเสีย พร้อมดูแลแก้ไขได้ภายใน 24 ชั่วโมง
ทรูออนไลน์ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมบริการบรอดแบนด์เพื่อลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ก้าวล้ำไปอีกขั้นกับการยกระดับมาตรฐานบริการด้วยเทคโนโลยีใหม่เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดให้ลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยี AI ตรวจสอบและวิเคราะห์เชิงลึก เสริมประสิทธิภาพการดูแลคุณภาพเครือข่ายแบบ Proactive Maintenance ที่เป็นการบำรุงรักษาเชิงรุกแนวป้องกัน จึงสามารถปรับปรุงคุณภาพสัญญาณได้ก่อนที่ลูกค้าจะพบปัญหา รวมทั้งมีบริการ Remote service แก้ปัญหาได้ทันทีในกรณีที่ลูกค้าพบปัญหาในการใช้งาน โดยไม่ต้องเข้าไปให้บริการที่บ้าน สามารถดูแลลูกค้าได้รวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง และเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการตลอดช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทรูออนไลน์เป็นแบรนด์ของไทยที่สามารถครองใจผู้บริโภคมาโดยตลอด และได้สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับนานาชาติตั้งแต่ปี 2017 และปีนี้เป็นอีกครั้งที่ทรูออนไลน์คว้ารางวัล "สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2020-2021" สาขาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ในงานประกาศผล World Branding Awards 2020-2021 จาก World Branding Forum ประเทศอังกฤษ ครองแชมป์ 4 สมัยต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์เดียวจากประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล โดยผ่านเกณฑ์การตัดสินทั้งด้านการประเมินแบรนด์ การวิจัยตลาดผู้บริโภค และการเปิดโหวตออนไลน์ สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการคุณภาพ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล ได้อย่างเข้าใจทุกความต้องการ
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "การได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ World Branding Awards จากประเทศอังกฤษในครั้งนี้ สะท้อนชัดเจนถึงความสำเร็จของทรูออนไลน์ที่มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพบริการเป็นสำคัญ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าทรูออนไลน์ทั้ง 4.3 ล้านรายที่ต่างให้ความไว้วางใจ เป็นพลังขับเคลื่อนให้ทรูออนไลน์คงความเป็นผู้นำตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตอันดับหนึ่งและเติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทรูออนไลน์พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งขึ้นของทุกคนในครอบครัวที่จะต้องทำงานและเรียนที่บ้านได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้นำความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของกลุ่มทรู เข้ามาเสริมประสิทธิภาพงานบริการในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น การใช้เทคโนโลยี AI เสริมประสิทธิภาพการดูแลคุณภาพเครือข่ายแบบ Proactive Maintenance ที่เน้นการบำรุงรักษาเชิงรุกแนวป้องกัน ช่วยในการตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายและเฝ้าระวังตลอดเวลา ทั้งยังสามารถวิเคราะห์เชิงลึก ทำให้ทีมวิศวกรเครือข่ายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงคุณภาพสัญญาณได้ก่อนที่ลูกค้าจะพบปัญหา พร้อมกันนี้ ทรูออนไลน์ ยังพัฒนารูปแบบบริการหลังการขาย หากลูกค้าพบปัญหาการใช้งาน สามารถแก้ไขให้ลูกค้าได้ทันที ผ่านระบบ Remote Service ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีตรวจประเมินควบคุมแบบระยะไกลด้วยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องเดินทางเข้าไปที่บ้านของลูกค้า จึงสามารถดูแลแก้ไขปัญหาการใช้งานได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งยังเพิ่มความสบายใจให้ลูกค้าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ด้วย นอกจากนี้ หากเกิดเหตุสุดวิสัยหรืออุบัติภัยต่างๆ ที่เกินกว่าการดำเนินการแก้ได้ด้วยทีมงานของทรูเอง ทรูออนไลน์ยังมีโซลูชันเสริมเพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ Plug in WiFi หรือให้ใช้งานเน็ตผ่านมือถือ ซึ่งเป็นความตั้งใจของทรูออนไลน์ที่จะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตบ้านที่มีคุณภาพสูงสุดและเสถียรตลอดเวลา และยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ต่างๆให้วงการบรอดแบนด์ไทยเทียบชั้นมาตรฐานโลก ทำให้วันนี้ทรูออนไลน์ เป็นแบรนด์ไทยรายเดียว ที่ได้รับรางวัล "สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2020-2021" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในสาขาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์
“รางวัล "สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2020-2021" นับเป็นความภาคภูมิใจของทีมงานทุกคน ที่ได้ทุ่มเททั้งเรื่องความครอบคลุมของเครือข่าย การสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาทิ "True Gigatex Fiber PRO" เราเตอร์อัจฉริยะ WiFi 6 , True Gigatex Smart Plus คอมโบแพ็ก 1Gbps พร้อมความบันเทิงจากทรูไอดีทีวี หรือ บริการ Prepay True Wireless Hi-Speed เน็ตไร้สาย แบบเติมเงิน ครั้งแรกในไทย ซึ่งการพัฒนาต่อเนื่องเหล่านี้ส่งผลให้ทรูออนไลน์ชนะเกณฑ์การตัดสินอันเข้มข้น แบ่งเป็นคะแนนจากคณะกรรมการ 30% ในด้านการประเมินแบรนด์ และคะแนนจากประชาชนทั่วไป 70% ในด้านการวิจัยตลาดผู้บริโภคและการเปิดโหวตออนไลน์ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณลูกค้าสำหรับทุกคะแนนเสียง ที่ทำให้ทรูออนไลน์เป็นแบรนด์ที่ชนะรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งสื่อความหมายได้ชัดเจนว่าทรูออนไลน์ยังคงเป็นแบรนด์ที่ชนะใจลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ย้ำภาพความเป็นผู้นำอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อันดับหนึ่งของคนไทยอย่างแท้จริง" ดร.ธีรเดช กล่าวสรุป