ด้วยแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร โดยจะรวบรวมผู้คน กระบวนการ และเทคโนโลยี บนระยะทางการแข่งขันกว่า 3,400 กม. เพื่อให้มั่นใจถึงความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นของการแข่งขัน
เอ็นทีที (NTT Ltd.,) พันธมิตรด้านเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการของ A.S.O ได้ประกาศในวันนี้ว่าจะสร้างสนามกีฬาที่เชื่อมต่อกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่เหมือนใครสำหรับการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ (Tour de France) ด้วยการสร้าง 'Digital Twin' โดยตำแหน่งของข้อมูลการแข่งขันในหลายล้านจุดจะถูกรวบรวมไว้และแสดงผลผ่านภาพอัจฉริยะรูปแบบดิจิทัล นำมาซึ่งความตื่นตาตื่นใจและมอบประสบการณ์ใหม่ๆให้กับแฟนๆ รองรับการจัดงานสำหรับการแข่งขันระยะยาวถึง 3 สัปดาห์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
เนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทางและมาตรการด้านความปลอดภัยของโควิด-19 NTT ร่วมกับ A.S.O ได้มอบประสบการณ์ดิจิทัลที่หลากหลายเพื่อดึงดูดแฟนๆ ทั่วโลกได้เข้าชม ซึ่งรวมไปถึง:
การสร้าง Digital Twin ด้วย IoT และ Edge Computing
ตูร์เดอฟรองซ์เป็นสนามกีฬาที่มีการขับเคลื่อนตลอดทุกวันด้วยระยะเวลา 21 วัน เป็นระยะทาง 3,400 กิโลเมตร เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ห่างไกลบางแห่งในฝรั่งเศส ตั้งแต่ชนบทอันงดงามไปจนถึงภูมิประเทศอันโหดร้ายของเทือกเขาแอลป์ (Alpes) และเทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees)
การสร้าง Digital Twin ในการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการสามารถมองเห็นได้แบบเรียลไทม์และปรับปรุงการปฏิบัติงานและในท้ายที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าการแข่งขันจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นและมีความยืดหยุ่นตลอดระยะเวลาการแข่งขัน โดย NTT จะใช้เซ็นเซอร์ IoT ที่หลากหลายมาใช้ในการประมวลผลแบบการคำนวณและแบบเครือข่าย รวมเข้ากับแพลตฟอร์มอัจฉริยะของ NTT และจับคู่กันกับแบบจำลองตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของแต่ละขั้นตอนของการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้มองเห็นตำแหน่งได้อย่างเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเป็นการติดตามผู้สัมผัสเชื้อ โควิด-19 รวมถึงการอัพเดตกองคาราวานนักแข่งและเวลาที่มาถึงการแข่งขัน
และเป็นครั้งแรกสำหรับปี 2564 ที่ NTT จะใช้การวิเคราะห์ตามเวลาจริงจากสนามแข่งเพื่อให้ข้อมูลการแข่งขันไปยังรถแข่งอย่างเป็นทางการในทันที โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำเสนอภาพรวมของสถานการณ์การแข่งขันแบบสด แม้ในพื้นที่ห่างไกลหรือบนภูเขาสูง
ปีเตอร์ เกรย์ รองประธานอาวุโสกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูงด้านกีฬาของ NTT Ltd. ให้ความเห็นว่า การแปลงระบบดิจิทัลของตูร์เดอฟรองซ์เริ่มขึ้นในปี 2558 โดยรวบรวมข้อมูลจากนักปั่นจักรยานเพื่อให้ข้อมูลอัพเดตแบบเรียลไทม์ ซึ่งในการแข่งขันทุกปีเราสามารถนำเทคโนโลยีก้าวไปสู่อีกระดับ และในปีนี้เรากำลังสร้างสิ่งที่เป็น Digital Twin ของกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งมันเป็นสภาพแวดล้อมแบบไดนามิกสูงและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ซึ่งต้องอาศัยการเข้าถึงข้อมูลในทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการแข่งขันอย่างต่อเนื่องและราบรื่น ส่งผลให้แฟนๆ ได้รับข้อมูลการแข่งขันและมีส่วนร่วมมากขึ้น”
การเชื่อมต่อที่ศูนย์กลาง เปิดใช้งานอย่างปลอดภัยโดยคลาวด์
การแสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในการแข่งขันแบบไฮบริดอย่างแท้จริง ด้วยการแสดงผลทั้งแบบกายภาพ, เซิร์ฟเวอร์เสมือนจริง, ข้อมูล และฟังก์ชั่นการประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ (serverless) ซึ่งจะรองรับการประมวลผลและเวิร์คโหลดที่แตกต่างกัน โดยทั้งหมดนี้จะถูกปรับใช้ผ่านรหัสโครงสร้างพื้นฐานอัตโนมัติ โดย NTT สามารถรองรับการเข้าชมจากแฟนๆ ได้หลากหลาย และการให้บริการในการดำเนินงานสำหรับ A.S.O ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกตรวจสอบโดย Services Portal ของ NTT และทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่เชื่อมต่อผ่านบริการ Managed Collaboration Service ของ NTT เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่ดีกว่า ไม่ว่าการแข่งขันจะจัดขึ้นที่ใด และไม่ว่าคอมพิวเตอร์ หรือแอพพลิเคชั่น และผู้ใช้งานจะอยู่ที่ใดก็ตาม
การสร้าง Digital Twin ยังหมายถึงการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้นของอุปกรณ์และยานพาหนะ ตลอดจนแอพพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มที่เข้าถึงบริการทั้งในโฮสต์บนคลาวด์ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์แบบสาธารณะ, คลาวด์ส่วนตัว หรือแบบไฮบริด ไม่ว่าโฮสต์จะเป็นอะไรก็ตาม สำหรับ A.S.O ข้อมูลจะเป็นหัวใจหลัก ไม่เพียงเท่านั้นยังรวมถึงการทำความเข้าใจข้อมูลในสถานะที่แตกต่างกัน รวมถึงวิธีการรวบรวมและใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้สำหรับแฟนๆ สื่อมวลชน หรือแม้แต่ทีมนักปั่นจักรยาน
เกรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นซ้ำๆ สำหรับหลายองค์กร คือในขณะที่พวกเขาสำรวจการแพร่ระบาดของไวรัส คือการทำอย่างไรให้มั่นใจว่าลูกค้าจะตอบสนองความต้องการและข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความสามารถในการปรับตัวเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นพันธมิตรกับ A.S.O โดยเรากำลังช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรมตูร์เดอฟรองซ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แฟนๆ นับล้านจากทั่วโลกต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ โดยในแต่ละปีเงินเดิมพันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราสร้างวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงการแข่งขัน และมีส่วนร่วมกับผู้คนมากขึ้นในรูปแบบใหม่และน่าตื่นเต้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อคุณพิจารณาถึงความซับซ้อนของการแข่งขันนี้
ยานน์ เลอ โมนเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ A.S.O ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยความเร็วที่แฟนๆ คาดหวังจากแอพพลิเคชั่นบนมือถือและบนคลาวด์ ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลเชิงลึกของเหตุการณ์ระหว่างการแข่งขัน การวิเคราะห์ที่สมบูรณ์ และดิจิทัลโซลูชั่นอัจฉริยะ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 เราได้นำการปรับปรุงด้านดิจิทัลอย่างมากมายมาสู่การแข่งขัน เพื่อสร้างประสบการณ์ 'Connected Fan' ที่ดีที่สุด และในปีนี้ก็ไม่ต่างกัน โดยเราจะมอบประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้ก็ตาม