“What’s Next for Flash Charging?” OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Flash Charging รุ่นใหม่ ที่ปลอดภัย และชาญฉลาดยิ่งกว่าเดิม
ด้วยการยึดประสบการณ์การใช้งานเป็นจุดสำคัญ เทคโนโลยี OPPO VOOC Flash Charge จึงถูกพัฒนาให้มีความเร็ว ปลอดภัย และชาญฉลาดขึ้นไปอีกระดับ
วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, ฉงชิ่ง ประเทศจีน – OPPO แบรนด์ Smart Device ชั้นนำระดับโลกจัดงาน “What’s Next for Flash Charging?” OPPO Flash Charge Open Day ขึ้นในวันนี้ โดยได้มีการเปิดเผยความสำเร็จล่าสุดจากการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเทคโนโลยีการชาร์จที่มีความเร็วสูง และการพัฒนาเทคโนโลยี Flash Charge
"การพัฒนาเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ของ OPPO นั้นมีการอ้างอิงมาจากนวัตกรรมในระบบการชาร์จที่มีความรวดเร็วทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ PMIC แบตเตอรี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย” Jeff Zhang Chief Scientist ของ OPPO VOOC Flash Charge กล่าว “ไม่ว่าผู้คนจะเลือกการชาร์จแบบไร้สายหรือแบบมีสาย เทคโนโลยี VOOC Flash Charge ในตอนนี้ ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เมื่อต้องชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ แม้แต่ภายใต้สถานการณ์ที่สุดขั้วก็ตาม”
Safe Charging: การพัฒนาและนวัตกรรมใหม่ ที่สร้างประสบการณ์การชาร์จที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
OPPO ให้ความสำคัญในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย เป็นจุดสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี Flash Charge เสมอมา และตามแนวคิดนี้ OPPO จึงได้นำระบบป้องกันความปลอดภัยแบบ 5 ชั้นมาใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge และยังได้มีการค้นคว้าวัสดุแบบใหม่ AI Algorithm สถาปัตยกรรมการชาร์จ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่จะสามารถนำมาใช้งานเพื่อส่งต่อนวัตกรรมอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
Smart Charging: เพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็วและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพื่อความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ
OPPO ยังได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยี Smart Charging แบบใหม่ภายในงาน ด้วยการออกแบบที่ทำขึ้นเพื่อให้ความเร็วในการชาร์จอยู่ภายใต้ระยะที่ปลอดภัยที่สุด จึงทำให้เทคโนโลยีนี้ จะมีการปรับกระแสไฟที่ใช้ในการชาร์จตามระบบการตรวจจับอัจฉริยะ ให้เหมาะกับสถานการณ์ในการชาร์จต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่ผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานแบตเตอรี่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เป็นเวลานานที่สุดอีกด้วย
เทคโนโลยี Smart Charging สามารถส่งมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดในหลายด้าน อันประกอบไปด้วย:
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิม: ในขณะที่ยังคงสามารถรับประกันความเร็วในการชาร์จของ 65W SuperVOOC และการชาร์จหรือการคายประจุแบตเตอรี่จนเต็มที่แล้ว เทคโนโลยีนี้ก็ยังสามารถรักษาความจุของแบตเตอรี่ให้อยู่ที่80% ของความจุดั้งเดิม หลังจากผ่านการใช้งานในการชาร์จมากถึง 1,500 รอบอีกด้วย
Extreme Charging: แม้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นที่สุด Flash Charge ก็ยังคงประสิทธิภาพ
นอกเหนือจากการทำให้ VOOC Flash Charge มีความปลอดภัยและชาญฉลาดสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว OPPO ยังได้ค้นคว้าวิธีการอื่น ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีการชาร์จอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่สุดขั้วมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ที่สามารถทำการชาร์จได้ยากลำบากกว่าปกติในสภาพเเวดล้อมที่เย็นจัด ซึ่งการฝืนชาร์จแบตเตอรี่นั้น อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ซึ่งในกรณีนี้ OPPO ได้ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาการชาร์จในสถานการณ์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติได้ โดยการใช้ Algorithm ที่มีความชาญฉลาดเพื่อกำหนดอุณหภูมิสำหรับทำการชาร์จที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวแบตเตอรี่ และทำการเพิ่มอุณหภูมิเครื่องก่อนเริ่มทำการชาร์จ ซึ่งผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า แบตเตอรี่สามารถเพิ่มอุณหภูมิจาก -20 ℃ ให้อยู่ที่ 10 ℃ ได้ในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามปกติ
จากการเปิดตัว VOOC Flash Charge ในปี ค.ศ. 2014 ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้งาน ยังคงเป็น 3 ปัจจัยหลัก อันเป็นส่วนสำคัญในการวิจัยและพัฒนาของ OPPO ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จ โดยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021 OPPO ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการชาร์จอย่างรวดเร็วไปกว่า 3,000 รายการ และด้วยอุปกรณ์กว่า 30 ชนิดที่ใช้ในการรองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge นั้น ทำให้ OPPO สามารถนำประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยมาสู่ผู้คนกว่า 195 ล้านคนทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 2021 OPPO ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ - The Flash Initiative - โดยมีการนำเทคโนโลยี VOOC ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OPPO มาใช้ในรถยนต์ พื้นที่สาธารณะ และชิปที่ใช้ภายในอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ภายในยุคของ Internet of Experience นั้น เทคโนโลยี Flash Charge ของ OPPO กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถนำประสบการณ์การชาร์จแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้มีความโดดเด่นในทุกสถานการณ์มาให้กับผู้ใช้งาน และทำให้ผู้คนสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ทุกที่ ทุกเวลา