ด้วยประสิทธิภาพจากพลังของโปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ รุ่นที่ 3 ผนวกกับสถาปัตยกรรม NUMA เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Varnish Edge Cloud ที่สามารถติดตั้งทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่มีจำหน่ายทั่วไป
วานิชซอตฟ์แวร์ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบเครือข่ายบริการคอนเทนต์ (CDN) ทั้งบริการแบบวีดีโอออนดีมานด์ (VOD) และบริการไลฟ์วีดีโอถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต
วานิชซอตฟ์แวร์ หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นระบบเครือข่ายของ Intel Network Builders ได้ทดสอบประสิทธิภาพของโซลูชัน Varnish Edge Cloud ภายใต้สภาพการใช้งานจริง โดยระบบทดสอบใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 3 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด Intel Select Solution ในการใช้งานกับ Visual Cloud Delivery Network โดยที่เซิร์ฟเวอร์ที่ทำการทดลองทั้งหมดนี้ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันสำหรับมัลติโปรเซสเซอร์ (NUMA)
ผลทดสอบ จากการเปิดตัวสาธิตการทำงานครั้งแรกแบบเสมือนในงาน Mobile World Congress เมืองบาร์เซโลนา ปรากฏดังนี้
สำหรับกลุ่มของผู้ผลิตสินค้าตามสั่ง ผู้ติดตั้งระบบ และผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสาร ผลการทดสอบนี้ยังส่งผลไปยังเรื่องของการกำหนดวิธีการเฉพาะในการสร้างโซลูชัน CDN ที่รวดเร็วขึ้น คุ้มค่ากว่า ซึ่งสามารถจัดการผู้ใช้จำนวนมากขึ้นด้วยโซลูชันแบบเดียวกัน หรือให้บริการเนื้อหาที่มีความละเอียดสูงกว่าแก่ผู้ใช้จำนวนใกล้เคียงกัน การผสมผสานระหว่างซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูงในการแคชชิ่งข้อมูลของ วานิชและโปรเซสเวอร์สำหรับงานประมวลผลรุ่นล่าสุดจากอินเทล ทั้งหมดเป็นที่มาของประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของความสามารถในการทำงาน การส่งข้อมูลเข้าและออก รวมถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่จำเป็นต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการถ่ายทอดคอนเทนต์ออกสู่ผู้รับบริการ
ลาร์ส ลาร์สสัน ซีอีโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ วานิชซอตฟ์แวร์กล่าวว่า “จากการร่วมมือทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างเราและอินเทล ในการบุกเบิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้านประสิทธิภาพของโซลูชั่นระบบ CDN เราไม่เพียงแค่เข้าใกล้ความเร็วในระดับเดียวกับการใช้งานบนสาย และปลดล็อกความสามารถในการรองรับความต้องการสตรีมมิงจำนวนมาก แต่ยังทำให้ต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการทำเช่นนั้นยังช่วยลดความยุ่งยากในการปรับใช้เช่นกัน โดยทำให้เห็นว่าผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายสามารถนำเอาโซลูชันไปใช้งานและบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพบนเครือข่ายตนเองได้อย่างไร”
เอสเพน บราสเตด รองประธานฝ่ายวิศวกรรม ของวานิชซอตฟ์แวร์เสริมว่า “การเป็นพันธมิตรกับอินเทลนั้น ช่วยให้เราสามารถเสริมประสิทธิภาพได้ทั้งบนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ทำงานได้ตอบโจทย์ความต้องการของระบบเครือข่ายได้มากที่สุด ผลทดสอบประสิทธิภาพล่าสุดของเราส่วนหนึ่งเกิดจากความสามารถในการเข้าถึงสถาปัตยกรรมหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันสำหรับมัลติโปรเซสเซอร์ (non-uniform memory access, NUMA) ที่มีอยู่ในซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดของวานิชช่วยให้ซีพียูแต่ละตัวบนแพลตฟอร์มระบบโปรเซสเซอร์แบบคู่ สามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงและรวดเร็ว”
* ประสิทธิภาพการทำงานของระบบมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน การปรับตั้งระบบ และปัจจัยอื่นๆ สามารถตรวจสอบรายละเอียดการปรับตั้งระบบได้ที่ www.intel.com/3gen-xeon-config
เกี่ยวกับวานิช ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์จากวานิชมีเทคโนโลยีการเก็บกักข้อมูล (Cache) อันทรงพลัง ช่วยให้ผู้ให้บริการคอนเทนต์ระดับโลกหลายรายสามารถสร้างประสบการณ์ในการให้บริการทั้งเว็บและการสตรีมวีดีโอที่รวดเร็วทันใจรองรับผู้ชมจำนวนมากโดยไม่เกิดดาวน์ไทม์หรือสูญเสียประสิทธิภาพ โซลูชันของวานิชซอฟต์แวร์ ผสมผสานความยืดหยุ่นแบบโอเพนซอร์สเข้ากับระบบที่มีความเชื่อถือได้ในระดับองค์กร ในการเพิ่มความเร็วให้กับการบริการสตรีมมิ่ง และเสริมการทำงานให้กับเว็บไซต์และ API อื่นๆ ที่ทำงานด้านการให้บริการข้อมูล และยังช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มต้นสร้างระบบ CDN ในรูปแบบของตัวเอง เพื่อปลดล็อคประสิทธิภาพและสร้างความยืดหยุ่นให้กับงานด้านการบริการคอนเทนต์ โดยที่ผ่านมามีลูกค้าชั้นนำหลายรายได้นำเอาเทคโนโลยีนี้ไปใช้แล้ว เช่น Hulu, Emirates และ Tesla และและยังมีเว็บไซต์อีกมากกว่า 10 ล้านแห่งทั่วโลก ที่นำเอาเทคโนโลยีของวานิช ซอฟตแวร์ ในระดับของการเก็บกักข้อมูล (Caching Layer) มาใช้สำหรับการยกระดับคุณภาพในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
Varnish Edge Cloud ถูกลิสต์ไว้ในแคตาล็อกของ Intel Network Builders Solutions Varnish Edge Cloud
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่น Intel Select Solutions สำหรับงานด้านเครือข่าย สามารถเข้าศึกษาได้ที่ Intel Select Solutions for Visual Cloud Delivery Network