ลาซาด้าประกาศปรับโฉมแบรนด์ระบบโลจิสติกส์เป็น “ลาซาด้า โลจิสติกส์” ยกระดับบริการขนส่งครบวงจร ตอบโจทย์ทุกแบรนด์และร้านค้า “ลาซาด้า โลจิสติกส์” พร้อมนำเสนอระบบบริการขนส่งครบวงจรโฉมใหม่ ช่วยแบรนด์และพันธมิตรอีคอมเมิร์ซตอบโจทย์ทุกคำสั่งซื้อของลูกค้าได้อย่างราบรื่น
คลังสินค้าที่ใหม่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของลาซาด้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีครบครัน
ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศปรับโฉมแบรนด์ระบบโลจิสติกส์ภายใต้ชื่อ “ลาซาด้า โลจิสติกส์” ที่พร้อมยกระดับวงการโลจิสติกส์ไทยไปอีกขั้น โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายโลจิสติกส์ของลาซาด้าใช้ชื่อว่า Lazada eLogistics (LEL) และ Lazada Express (LEX) ซึ่ง LEL ทำหน้าที่จัดการคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ร่วมกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่น ในขณะที่ LEX ทำหน้าที่จัดส่งพัสดุถึงลูกค้า โดยการปรับโฉมแบรนด์ภายใต้ชื่อ “ลาซาด้า โลจิสติกส์” มาพร้อมเฉดสีฟ้าในแบบใหม่เพื่อสะท้อนความมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการส่งมอบโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่น่าเชื่อถือและครบวงจรให้แก่แบรนด์และร้านค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ
มร. ชุน หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป เปิดเผยว่า “จากประสบการณ์กว่าทศวรรษที่ผ่านมาของกลุ่มลาซาด้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เครือข่ายโลจิสติกส์ของเราได้พลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซให้กับภูมิภาคที่มีความแตกต่างทางภูมิศาสตร์และมีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ซึ่งทำให้เราสามารถส่งมอบบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภคทั่วภูมิภาคได้ รวมถึงให้บริการที่สะดวกและครบวงจรแก่ผู้ขายและพาร์ทเนอร์ของเรา โดยการประกาศปรับโฉมแบรนด์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของพนักงานและเทคโนโลยีของเรา”
ภายใต้การปรับโฉมแบรนด์ครั้งนี้ “ลาซาด้า โลจิสติกส์” ได้เปิดตัวบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (multi-channel logistics: MCL) ด้วยโซลูชันการจัดเก็บสินค้าแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการบนอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่าง ๆ สามารถตอบโจทย์การขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าผู้บริโภคจะสั่งซื้อสินค้าบนลาซาด้าหรือบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่น ลาซาด้า โลจิสติกส์ จะช่วยเติมเต็มการให้บริการด้านขนส่งทุกคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ลาซาด้าจะเป็นผู้จัดเก็บสินค้าของผู้ขายและพันธมิตรบนอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้การจัดการด้านการขนส่งและการกระจายคำสั่งซื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งโดยลาซาด้า บริษัทขนส่งที่เป็นพันธมิตร หรือการขนส่งผ่านตัวแทน
ด้าน มร. แอนดี้ ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งวิถีใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดส่งสินค้าถึงหน้าประตูที่สะดวกและรวดเร็วทันใจ เราจึงได้เดินหน้าสร้างสรรค์และนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ขายและพันธมิตรอีคอมเมิร์ซของเราสามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า นอกจากนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ยังมั่นใจได้ว่าบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) นั้น สามารถให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน ช่วยแก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์ให้กับแบรนด์และผู้ขายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แบรนด์และผู้ขายสามารถทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาด้านการขาย การตลาด และการยกระดับธุรกิจของพวกเขาได้อย่างเต็มที่”
บริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถควบคุมสินค้าในคลังได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ลดความกังวลด้านโลจิสติกส์ที่ต้องใช้ต้นทุนสูงและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านการจัดการคลังสินค้า ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงระบบคลังสินค้าและการขนส่ง ในขณะเดียวกันยังช่วยให้แบรนด์และผู้ขายประหยัดต้นทุนในการขยายเครือข่ายการทำงานได้เป็นอย่างดี
การนำบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) มาเป็นส่วนหนึ่งของลาซาด้า โลจิสติกส์ แสดงให้เห็นถึงระบบโครงสร้างซัพพลายเชนขั้นสูง รวมทั้งศักยภาพด้านโลจิสติกส์ ที่พร้อมส่งมอบโซลูชันด้านสินค้าคงคลังและการกำหนดเส้นทางที่ชาญฉลาดซึ่งสร้างสรรค์โดยระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีของลาซาด้า ทำให้แบรนด์และผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของลาซาด้า โลจิสติกส์ ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการกว่า 400 แห่ง ทั้งคลังสินค้า ศูนย์คัดแยก และฮับ นอกจากนี้แบรนด์และผู้ขายยังได้รับประโยชน์จากการอยู่ในระบบขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมด้านอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งความได้เปรียบทางการแข่งขันของลาซาด้าในฐานะผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยกว่า 85% ของขั้นตอนขนส่งพัสดุในขั้นแรก หรือจากผู้ขายไปสู่คลังสินค้า จะได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์จากระบบภายในของเรา นอกจากนั้น Cainiao (ไช่เหนี่ยว) ซึ่งเป็นระบบโลจิสติกส์ของอาลีบาบา จะเข้ามาช่วยลาซาด้าดูแลด้านการขนส่งข้ามพรมแดนและศูนย์บริการการกระจายสินค้าในประเทศจีน
นอกจากนี้ ลาซาด้า โลจิสติกส์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการแบบครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้ง จึงได้เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อาจมีการให้รางวัลจูงใจผู้ขายที่สามารถตอบสนองคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับปรุงระบบให้สามารถรับสินค้าจากผู้ขายได้ภายในวันที่ได้รับคำสั่งซื้อ
“การปรับโฉมแบรนด์และการเปิดตัวบริการใหม่นี้นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงสิ่งที่เราตั้งใจสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำภารกิจของเราในการขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มของอีคอมเมิร์ซที่ดีและยั่งยืน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานความเป็นเลิศด้าน โลจิสติกส์ของเราเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มร. ฮวง กล่าว
มร. เจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานอันล้ำหน้าของลาซาด้า โลจิสติกส์ จะเข้ามาพลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด และช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยนับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ เราได้เห็นการเติบโตของการช้อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับโฉมของลาซาด้า โลจิสติกส์ ในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งนี้ ในด้านศูนย์ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย เรามีศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าแห่งใหม่ ซึ่งประกอบด้วยคลังสินค้า 2 แห่ง โดยแห่งหนึ่งเป็นคลังสินค้าภายในประเทศ และอีกแห่งหนึ่งสำหรับการจัดการคลังสินค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เรายังมีศูนย์คัดแยกอีก 2 แห่ง และฮับ 78 แห่งทั่วประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกคำสั่งซื้อจะถูกจัดส่งอย่างปลอดภัยและรวดเร็วทันใจถึงมือลูกค้าทุกคน”