รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ลงพื้นที่โครงการ Thailand
Digital Valley ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคาร TDV2:
Digital Startup Knowledge Exchange Center และพบปะดิจิทัลสตาร์ทอัพ
พร้อมมอบหมาย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เร่งสร้าง TDV3:
Digital Innovation Center หัวใจสำคัญของโครงการฯ
โดยหวังเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ทดสอบ ทดลอง
พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
ด้วยขนาดพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ลงพื้นที่โครงการ Thailand
Digital Valley ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคาร TDV2: Digital Startup Knowledge
Exchange Center โดยมี ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมคณะผู้บริหาร
พนักงาน และกลุ่มดิจิทัลสตาร์ทอัพร่วมให้การต้อนรับ
ซึ่งทั้งหมดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด
ชัยวุฒิ
เปิดเผยว่า อาคาร TDV2:
Digital Startup Knowledge Exchange Center ขนาดพื้นที่ 4,500 ตารางเมตร นับเป็นอาคารหลังที่สองต่อจากอาคาร TVD1: depa Digital
One Stop Service ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
เป็นชุมชนของดิจิทัลสตาร์ทอัพ (Digital Startup Community) และพื้นที่ต่อยอดธุรกิจ
โดยขณะนี้มีเหล่านักพัฒนา ดิจิทัลสตาร์ทอัพ รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย
ไม่ว่าจะเป็น My MooBan, Computerlogy, INFOFED, Solution Maker, Account
Channels, Tellscore, Unabiz ฯลฯ ร่วมจองสิทธิ์และแสดงความจำนงค์เช่าพื้นที่บริการในอาคารเต็มแล้ว
100% ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้
พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้
ดีป้า เร่งดำเนินการก่อสร้าง TDV3: Digital Innovation Center ขนาดพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร โดยคาดหวังให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ทดสอบ
ทดลอง และพัฒนาเทคโนโลยีและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
ดร.ณัฐพล กล่าวว่า เสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากบรรดาผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพและนักพัฒนาที่มีให้
TDV2:
Digital Startup Knowledge Exchange Center และ TVD1: depa
Digital One Stop Service ส่งผลให้ ดีป้า เร่งสานต่อการก่อสร้าง
TDV3: Digital Innovation Center หัวใจสำคัญของโครงการ Thailand
Digital Valley โดยจะเป็นพื้นที่เรียนรู้เพื่อการสร้างสรรค์ขนาดใหญ่
(Super Maker Space) พื้นที่ทดลอง ทดสอบ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม
5G (Next Gen Telecom Lab) พื้นที่ล้ำสมัยด้านปัญญาประดิษฐ์
(AI Lab) พื้นที่ปฏิบัติการและพัฒนาเทคโนโลยีไอโอที
(IoT Lab) พื้นที่ปฏิบัติการและพัฒนาเทคโนโลยีโลกเสมือน
(XR Lab) พื้นที่ปฏิบัติการนวัตกรรมระบบการประมวลผลแบบคลาวด์
(Cloud Innovation Lab) และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
(Design Center)
สำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่และดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในระดับภูมิภาค
โดยประเมินว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้
“โครงการ Thailand
Digital Valley จะมีบทบาทในการเป็นศูนย์กลางการออกแบบ พัฒนา
วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลองเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงสำหรับดิจิทัลสตาร์ทอัพและบริษัทเทคดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก
ก่อนต่อยอดสู่ตลาดเชิงพาณิชย์
เป็นระบบนิเวศที่เชื่อมโยงบริษัทชั้นนำกับดิจิทัลสตาร์ทอัพในเทคโนโลยีเป้าหมาย* โดย Thailand Digital Valley จะทำให้ประเทศไทยมีระบบนิเวศที่เป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค
(ASEAN Digital Hub) ขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลของคนไทย
เกิดการค้าและการลงทุนจากดิจิทัลสตาร์ทอัพต่างชาติ ตลอดจนบริษัทชั้นนำระดับโลก
อีกทั้งช่วยส่งเสริมให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตและก้าวสู่เวทีระดับสากล
เกิดการจ้างงานด้านดิจิทัลในพื้นที่กว่า 20,000
คน และเกิดมูลค่าการลงทุนมากกว่า 50,000
ล้านบาท” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
* ดิจิทัลสตาร์ทอัพในเทคโนโลยีเป้าหมาย ประกอบด้วย เทคโนโลยีเพื่อการเงิน
(FinTech) เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร (AgTech) เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว (Travel Tech) เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
(Health Tech) เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) และเทคโนโลยีเพื่อการบริการภาครัฐ (GovTech)