18 ต.ค. 2564 1,035 0

ไปรษณีย์ไทยหนุนมูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าฯ จัดรถขนส่งเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow 900 เครื่อง ส่งตรงถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศ ย้ำภารกิจขนส่งช่วยคนไทยครอบคลุมทุกมิติ

ไปรษณีย์ไทยหนุนมูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าฯ จัดรถขนส่งเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow 900 เครื่อง ส่งตรงถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศ ย้ำภารกิจขนส่งช่วยคนไทยครอบคลุมทุกมิติ



บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าสนับสนุนภาคสาธารณสุข  อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดหนุนมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารในพระสังฆราชูปถัมภ์ จัดส่งเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow พร้อมระบบมอนิเตอร์ทางไกล จำนวน 900 เครื่อง ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ในการเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิด และผู้ป่วยปอดอักเสบ หรือมีภาวะการหายใจบกพร่อง ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคม ไปรษณีย์ไทยจะนำร่องจัดส่งให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆจำนวน 200 เครื่อง และคาดว่าจะสามารถส่งครบจำนวนทั้งหมดภายในเดือนพฤศจิกายน 2564



ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า  ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในภาคส่วนสาธารณสุขจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งในด้านสถานที่พักรักษาผู้ติดเชื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อร่วมเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนภาคส่วนสาธารณสุขของประเทศ ไปรษณีย์ไทย จึงเดินหน้าใช้ความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งร่วมมือกับ “โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทยและอาเซียน มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และใช้ได้จริง ซึ่งในปี 2564 นี้ ได้วิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการเฝ้าระวัง ติดตาม และพยุงอาการผู้ป่วย COVID-19 ผู้ป่วยปอดอักเสบหรือมีภาวะการหายใจบกพร่อง การหายใจล้มเหลวแบบทางไกลตลอด 24 ชั่วโมง และมาพร้อมประสิทธิภาพในการทำงานที่บุคลากรทางการแพทย์ 1 ท่าน สามารถควบคุมการทำงาน 20 เครื่อง ผ่านรีโมทคอนโทรล





โดยไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการสนับสนุนการจัดส่งเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow จำนวน 900 ชุด ในเดือนตุลาคม 2564 นี้ โดยจะนำร่องขนส่ง 200 ชุดแรกกระจายไปตามสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลปัตตานี  โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จังหวัดยะลา โรงพยาบาลสงขลา โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ฯลฯ และคาดว่าจะส่งครบทั้งหมดภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ เป้าหมายในการดำเนินงานครั้งนี้ เพื่อลดการขาดแคลนอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็น และเป็นการสนับสนุนกลุ่มงานวิจัยและองค์กรปลายทางให้ได้มีโอกาสเชื่อมต่อความช่วยเหลือระหว่างกัน รวมถึงเป็นการช่วยเหลือภาคประชาชนให้ได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย “นอกจากการจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ไปรษณีย์ไทย ยังมีภารกิจสนับสนุนในด้านสาธารณสุขอื่นๆ อาทิ การจัดส่งเตียงสนาม จำนวนกว่า 4,000 เตียง ผ่านโครงการส่งความห่วงใย ส่งให้สู้ภัย COVID-19 ให้โรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ การจัดส่งเครื่อง Oxygen Chula High Flow Cannula ของสภากาชาดไทยให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ การจัดส่งยาและอุปกรณ์การแพทย์ให้กับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) และกลุ่มแพทย์อาสาให้กับผู้ป่วย COVID-19 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องกักตัวที่บ้านให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย และการจัดส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านสำหรับผู้ป่วยโรคไตผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือให้กับผู้ป่วยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนการร่วมมือกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด และองค์การเภสัชกรรม จัดทำหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จากกล่องซองที่ไม่ใช้แล้วของแคมเปญ ไปรษณีย์ reBOX เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลอีกด้วย” ดร.ดนันท์ กล่าวสรุป