5G เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงการยกระดับประสบการณ์บนโลกดิจิทัลให้ลื่นไหลตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น สำหรับประเทศไทย 5G ถือเป็นหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบเศรษฐกิจ และสังคม รวมไปถึงการระดับวิถีชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น เอื้อประโยชน์ในแง่เศรษฐกิจ ปัจจุบันไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายในการยกระดับขีดความสามารถในด้านการแข่งขันของประเทศให้สามารถยืนอยู่บนเวทีโลก หรือภูมิภาค ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยการเร่งยกระดับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล Digital Economy เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต การขนส่ง การขาย และการบริการ
ในด้านสังคมนั้น 5G เป็นเทคโนโลยีลดช่องว่างทางสังคม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทั้งในด้านสาธารณสุข ผู้คนทั่วประเทศสามารถเข้าระบบสาธารณสุขในมาตรฐานที่ดีทัดเทียมกัน ด้วยระบบแพทย์ทางไกล ด้านการศึกษาเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ด้านระบบทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต บริการและสวัสดิการภาครัฐรวดเร็วทั่วถึงยิ่งขึ้น
ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล จำกัด (HMD) ให้ข้อมูลว่า ทั้งนี้ ในแง่ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน 5G คือสปีดที่เร็วขึ้น แบนด์วิธ (Bandwidth) ที่สูงขึ้น และมีความล่าช้าในการรับส่งหรือเชื่อมต่อ (Latency) ที่น้อยลงกว่าเดิม ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงที่ผู้ใช้สมารท์โฟนจะได้รับคือประสบการณ์การใช้งานโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ได้แบบลื่นไหลแบบไม่มีติดขัด การรับและส่งข้อมูลทั้งข้อความ วิดีโอคอล หรือแม้กระทั้งการดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์ใหญ่ๆ ได้รวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถสตรีมมิ่งวิดีโอคุณภาพคมชัดได้รวดเร็ว รับฟังพอดแคสต์ที่เป็นนิยมได้อย่างไร้ขีดจำกัด แม้มีผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งคุณภาพการเชื่อมต่อจะไม่ดีนักก็ตาม ซึ่งวันนี้ เทคโนโลยี 5G บนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้ให้แค่เฉพาะความเร็ว และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่โทรศัพท์มือถือ แต่รวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ IoT หรือ Internet of Things ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายเทคโนโลยี 5G ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้การก้าวสู่ยุค 5G จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ทั้งประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ดีกว่าของผู้บริโภค รวมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ส่งเสริมและยกระดับคุณภาพสังคมโดยรวม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้มากกว่าเดิม ซึ่งมีประโยชน์กับผู้ใช้งานในหลายด้าน เช่น การใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่อได้รวดเร็วขึ้น การรับ การส่ง และการแจ้งเตือน รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดได้จากระยะไกล หุ่นยนต์ในโรงงาน และดีไวซ์ IoT อื่นๆ ในอนาคต
“อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ อุปกรณ์สื่อสารหรือดีไวซ์ และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่คนทุกระดับสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ ซึ่ง Gartner คาดการณ์ยอดขายสมาร์ทโฟน 5G ทั่วโลกในปี 2564 อยู่ที่ 539 ล้านเครื่อง คิดเป็น 35% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งหมด โดยนายภราดร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ราคาของสมาร์ทโฟน 5G ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังไม่มีทางเลือกมากนักและด้วยราคาเครื่องค่อนข้างสูง ส่งผลต่อการเข้าถึงสมาร์ทโฟน 5G ในวงกว้างสำหรับผู้ใช้งาน ประกอบกับผลสำรวจของบริษัทพบว่าผู้บริโภคทั่วโลก มองหาสมาร์ทโฟน คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล เพื่อตอบสนองการใช้งานที่ยาวนานขึ้น”
HMD จึงมีแนวคิดนำเทคโนโลยีเคลื่อนที่ (Mobile technology) สามารถเข้าถึงคุณภาพและมาตรฐานในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้แนวคิด Love it. Trust it. Keep it. เพื่อสร้างแบรนด์ให้กลับเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภคอีกครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพในราคาที่จับต้องได้ทั้งรุ่นสมาร์ทโฟน และฟิวเจอร์โฟน รวมถึงสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรก Nokia G50 ที่ราคาจับต้องได้อันดับต้น ๆ ของโลก เปิดในประเทศไทยเครื่องละ 8,590 บาท พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ร่วมกระจาย Nokia G50 ผ่านทางช่องทางการขายของ TRUE ด้วย TRUE 5G เป็นโครงข่ายที่ครบสุดทุกย่านความถี่ครอบคลุมทั่วไทย ด้วยแพ็คเกจราคาเข้าถึงง่ายเริ่มต้นเพียง 1,590 บาทเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงโครงข่าย 5 G เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน สำหรับเรียนออนไลน์และทำงานระยะไกล Nokia G50 เป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่ม G-series ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกมิติ หน้าขอละเอียดHD+ ขนาดใหญ่ 6.82 นิ้ว กล้อง AI มาพร้อมกับกล้อง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP เก็บทุกภาพพร้อมร่วมแชร์ด้วยความเร็วสูงบนเครือข่าย 5G โดยมีชิปเซ็ต Snapdragon 480 5G จาก Qualcomm ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยี รองรับ 5G ปัจจุบันและอนาคต พร้อมกับ Android เวอร์ชั่นล่าสุด รองรับการอัพเกรดสู่ Android 12 และเวอร์ชั่นใหม่ในอนาคต รองรับทุกการใช้งาน Google Mobile Service แบบไม่มีสะดุด การันตีการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี อายุการใช้งานแบตเตอรี่อึดนานถึง 2 วัน ตัวเครื่องรองรับการชาร์จไวแบบ 18W เน้นพัฒนาเพื่อเป็นสมาร์ทโฟนที่ที่สมบูรณ์แบบบนเครือข่าย 5G
Nokia G50 นับเป็นโอกาสเข้าถึงผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน
การใช้งานเครือข่าย 5G
ยกระดับประสิทธิภาพ การทำงานและการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
และกระตุ้นให้มีการพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G สำหรับผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น
ทั้งยังนับเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมในเชิงมหภาคได้รวดเร็วขึ้น