Dish จับมือ Helium และ FreedomFi เสิร์ฟ 5G hotspot ในบ้านคุณ ให้เน็ตแรง โดยได้ผลตอบแทนเป็นเหรียญ Helium โดยผู้ใช้ก็ได้อุปกรณ์สัญญาณ 5G hotspot เป็นของตนเองด้วย
การขยายสัญญาณ 4G LTE และ 5G ไม่ได้ง่ายเหมือน Wi-Fi มีค่าใช้จ่าย ต้นทุนสูง จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ network ล่าสุดมีไอเดียเด็ด ที่จับมือกันโดย Dish Network, Helium Network และ FreedomFi ทำให้คุณเป็นเจ้าของเครือข่ายขนาดเล็กได้ไม่ยากเลย แถมได้ค่าตอบแทนอีกด้วย
Dish Wireless ให้บริการ cellular data backbone หมายความว่า คุณสามารถเป็นเจ้าของเครือข่าย cellular ได้เอง โดยติดตั้งเครือข่าย hotspot ที่บ้านหรือสำนักงาน ช่วยกระจายสัญญาณ โดยคุณสามารถให้บริการสัญญาณไร้สาย 5G โดยใช้คลื่น Citizens Broadband Radio Service (CBRS) บนคลื่นความถี่ 3GHz
นอกจากนี้ ผลตอบแทนที่ผู้ใช้ได้รับก็คือเหรียญ Helium สกุล $HNT คือ Helium network-based token ซึ่งเป็น cryptocurrency บนเทคโนโลยี blockchain
การที่คุณช่วยขยายเครือข่าย 5G ทาง Helium มองว่า ปัจจุบันมีการขยายเครือข่ายไร้สายใช้พลังงานต่ำ มากกว่า 240,000 แห่ง และเครือข่าย LoRA-based hotspots กว่า 21,000 เมืองในอเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชีย ล่าสุดนั้นมีการสั่งซื้อกว่า 500,000 จุด hotspots และผู้ผลิตรายใหม่กว่า 50 แห่ง ที่กำลังรอการอนุมัติให้สร้างและขายอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับ Helium ได้
Helium เชื่อมโยงกับเครือข่าย Dish network กับอุปกรณ์ FreedomFi โดยใช้ WHIP เป็น open-source และระบบไร้สายมาตรฐานที่ออกแบบสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำ (low-power devices) ในพื้นที่ขนาดใหญ่ โดย Helium Decentralized Wire Network (DWN) นำเสนอบริการไร้สาย รวมไปถึงนักขุดเหมือง (miners) โดย Dish จ่ายให้นักขุดเหมือง เพื่อเชื่อมโยงและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่าน HNT
Dish ได้ทำงานร่วมกับสกุลเงิน blockchain มาระยะนึงแล้ว ในปี 2014 เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งแรกที่ยอมรับ Bitcoin และเป็นผู้ให้บริการทีวีดาวเทียมแห่งแรกที่รองรับเงินสกุลนี้ โดยทางบริษัทได้เพิ่ม Bitcoin Cash ให้สามารถชำระเงินได้ในปี 2018 และตามมาด้วยปีนี้ ในขณะที่ GoChain ได้เพิ่ม Dish โดยการกำหนดโหนดเป็น public network นอกจากนี้ Dish และ Input Output Global บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง Cardano blockchain ได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรในข้อตกลงในการให้บริการ blockchain-based services ร่วมกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่า Dish เปิดรับ cryptocurrency นั่นเอง
Amir Haleem, CEO และผู้ก่อตั้ง Helium กล่าวว่า โมเดลในการใช้เทคโนโลยีของ Helium Network และ blockchain-based เพื่อจ่ายค่าตอบแทน Dish ถือเป็นผู้นำที่สนับสนุนทางเลือกใหม่ๆ ในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก จะเห็นได้ว่า 5G hotspot แบบ CBRS-based เป็นการลงทุนเครือข่ายที่ทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของเครือข่าย สร้างโอกาส ให้กับผู้ใช้ พันธมิตร และทั้งอีโคซิสเต็ม
สำหรับ Hotspot ต่างๆ เป็นของ FreedomFi Gateway ใช้อุปกรณ์เครือข่าย x86 ที่โดดเด่นในเรื่องการเป็นเจ้าของได้ง่าย มีราคาที่เข้าถึงง่าย และสามารถสร้างเครือข่าย Private LTE หรือเครือข่าย 5G โดยใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส และเสาสัญญาณขนาดเล็ก
ความร่วมมือนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากและใช้ต้นทุนน้อยมากๆ ในการขยายเครือข่าย 5G ให้กับธุรกิจและลูกค้า โดยผู้ใช้เองก็ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเหรียญ helium token ซึ่งผู้ให้บริการเองก็ไม่ต้องลงทุนขยายสัญญาณเอง คนที่สนใจก็ติดตั้ง Gateway โดยได้ค่าตอบแทน เรียกว่า win-win กันทุกฝ่าย
รายละเอียด
https://freedomfi.com/helium5g/
เรียบเรียงจาก zdnet
