มีการใช้คลื่น Private LTE เรียนออนไลน์แบบ remote learning ที่โรงเรียนในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันมีการนำคลื่น Citizens broadband radio service (CBRS) มาใช้กับกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไร อย่างเช่น โรงเรียนเมอร์เร โรงเรียนเทศบาลในเมอเรย์ ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ได้มีการจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายที่ว่านี้ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนแบบ Virtual Class
ตอนนี้นักเรียนทั่วโลกเรียนออนไลน์กันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว โดยโรงเรียน Murray ในเมือง Salt Lake City ใช้คลื่น private LTE จัดห้องเรียนแบบเสมือน ให้นักเรียน 6,000 คนเข้าห้องเรียน ในลักษณะของ remote school ในช่วงที่ทุกคนเก็บตัวจากสถานการณ์ COVID
ทางโรงเรียนได้มีการนำระบบ private LTE ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงระหว่างบ้านและโรงเรียน ให้เรียนแบบ remote class มาตั้งแต่ปี 2016 ตั้งแต่ก่อนโควิดเสียอีก อย่างที่เราทราบกันดีว่า การเรียนแบบนี้ ไวไฟบ้าน หรือเน็ตมือถือ ไม่เพียงพอในการให้บริการเรียนเป็นวีดีโอสด หรือวีดีโอที่บันทึกไว้ ที่ต้องการแบนด์วิธเยอะมาก โดยเฉพาะการที่ผู้ปกครองพยายามเชื่อมต่อในช่วงเวลาเดียวกันเพราะต้องทำงาน WFH ไปด้วยพร้อมกัน
คุณ Jason Eyre, CTO ของโรงเรียน Murray มองว่า บริการเครือข่าย private LTE อาจจะไม่ได้เแพร่หลายนัก แต่ในระยะหลังได้มีการพูดถึงคลื่น citizens broadband radio service (CBRS) เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ในเดือนมกราคม 2020 เพราะก่อนหน้านี้คลื่นความถี่ไม่พอ และยังแพงมากๆ สำหรับโรงเรียนชานเมือง
ในมุมของกิจการไม่แสวงผลกำไร มีการใช้คลื่น CBRS กับเครือข่าย Utah Education Network ตอบสนองการใช้งานสำหรับโรงเรียน Murray และเขตการศึกษาอื่นๆ และมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่เขตการศึกษาอาจไม่มี
สำหรับการวางระบบ มีการใช้อุปกรณ์คลื่น Baicell Nova 436q LTE บนหลังคาของแต่ละโรงเรียน 10 โรงเรียน ติดตั้งง่ายและครอบคลุมในพื้นที่ที่ต้องการ ส่วนนักเรียนใช้เร้าเตอร์ Cradlepoint IBR900 รับสัญญาณ LTE และใช้ Wi-Fi ผ่าน Chromebook ที่โรงเรียนจัดให้
ในขณะเดียวกันก็พบปัญหา (เป็นข้อจำกัด) เพราะคลื่น LTE นั้นอ่อน ในพื้นที่บ้านนักเรียนอยู่ใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง หรือริมแม่น้ำ แต่ทางเขตก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการประสานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อช่วยเหลือในการส่งสัญญาณให้ครอบคลุมในการเรียนของนักเรียน ทำให้ความเร็ว Download speed อยู่ในช่วงระหว่าง 28 ถึง 193Mbps
ส่วนการจัดทราฟฟิกการเชื่อมต่อผ่าน ethernet เข้ากับ virtual media gateway ของโรงเรียน ในการแยกการควบคุม control-plane traffic ออกจาก user-plane traffic ซึ่ง control traffic เชื่อมต่อผ่าน VLAN กับไฟเบอร์ออฟติกของโรงเรียนเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ UEN servers ที่รันบน virtual EPC core เพื่อจัด routing จัดการ session และบริหาร policies ซึ่งการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเครือข่ายของโรงเรียน หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
Eyre มองว่า ระบบนี้ทำให้ง่ายต่อการจัดการจากเขตการศึกษา มองเห็นภาพรวมของทราฟฟิก ความปลอดภัย และการกรองเนื้อหา (ตามข้อกำหนดกฎหมายของรัฐ) ซึ่งตรวจสอบโดย UEN
นอกจากนี้ โรงเรียนยังได้มอบมือถือ iPhone SE 2 กับคุณครู ให้เชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE ทำให้รองรับการสอนแบบ remote lesson ยกตัวอย่างเช่น ครูสอนซ่อมรถยนต์ อาจเล็งกล้องไปที่เครื่องยนต์ของรถยนต์และสาธิตการบำรุงรักษาและการทำงานขั้นพื้นฐานของรถยนต์
แต่บอกเลยว่า ระบบที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ราคาไม่ได้ถูก โดยเฉพาะตัว EPC core ที่มีต้นทุน "หลายแสนดอลลาร์" แต่เชื่อได้ว่าการลงทุนเพื่อการศึกษา มีประโยชน์มากๆ ในการสร้างความตื่นตัวในช่วงโรคระบาดนี้ โดยมีการสนับสนุนจากพระราชบัญญัติ CARES ช่วยเรื่องต้นทุนได้เยอะมาก แต่ต้นทุนเครือข่ายต่อเดือนไม่ได้เยอะ