แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ AIS นับว่าเป็นภารกิจสำคัญในระดับนโยบายที่มีการวางแนวทางอย่างชัดเจน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความครอบคลุมทั้งในส่วนของการดำเนินธุรกิจที่เป็นธรรม โปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล การพัฒนานวัตกรรมและยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและใช้งานได้อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี นอกจากนั้น AIS ยังให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานให้มีศักยภาพพร้อมรับมือต่อการขยายตัวของธุรกิจอยู่ตลอดเวลา และใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหมด ได้ถูกผลักดันจากพลังของชาวเอไอเอสตามกรอบด้านการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ที่ทำให้ AIS ได้รับการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ทั้งในกลุ่มดัชนีโลกและดัชนีตลาดเกิดใหม่ (DJSI World and Emerging Markets Indices) ในปีนี้
สมชัย เลิศสุทธิวงค์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “AIS มีความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศด้วยเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดการพัฒนาและเติบโตร่วมกัน
ซึ่งเราได้ดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในเรื่องของ
เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียกับองค์กรอย่างรอบด้าน ผ่านการสร้างสินค้าบริการด้านดิจิทัลที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมศักยภาพของธุรกิจให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมสามารถนำไปใช้ได้จนเกิดผลลัพธ์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง”
1.
การสร้างสินค้าและบริการผ่านนวัตกรรมด้านดิจิทัล
และโครงข่าย AIS 5G
เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
2.
เสริมศักยภาพของภาคธุรกิจไปพร้อมกัน
รวมถึงการพัฒนาระบบการป้องกันภัยไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้
ด้านสังคม ที่ AIS ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างให้พนักงานมีความพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงรองรับการขยายตัวของธุรกิจในบริบทของ
Digital Disruption ด้วยแนวคิด “FIT FUN FAIR” ที่เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างให้เกิดความหลากหลายทางความคิด
สนับสนุุนให้พนักงานพัฒนาศักยภาพเพื่่อตอบรับความท้าทายทางธุุรกิจและสร้างเป้าหมายการทำงานร่วมกัน อีกทั้งยังมุ่งสร้างคุณภาพความเป็นอยู่ให้กับสังคมไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
รวมถึงส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัยและเหมาะสมให้แก่คนไทย
ด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้การดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
โดยมีโครงการหลัก 3 ด้าน ประกอบไปด้วย
·
การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น ติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสถานีฐานที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายเทคโนโลยี
และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า ขยายระบบ Virtual Machine Sever ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
การดำเนินการด้านนี้ทำให้ปี 2020 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 75,590
ตันคาร์บอน
·
การใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดรวม ณ ปี 2020 สามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บริเวณสถานีฐาน
ไปแล้วกว่า 2,747 สถานีฐาน และติดตั้งที่ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และชุมสายรวม 4
แห่ง
ทำให้ผลลัพธ์ของการใช้พลังงานทางเลือกสามารถลดประมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง
3,503 ตันคาร์บอน ในปี 2020
· การลดปริมาณขยะ ชวนลูกค้าให้มีส่วนร่วมกับการช่วยสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดใช้กระดาษเปลี่ยนมาใช้ e-bill แทน ซึ่งวันนี้เรามีผู้ใช้งานแบบ e-bill แล้วกว่า 6.7 ล้านราย รวมถึงสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ที่วันนี้สามารถรวบรวม E-Waste ได้กว่า 234,463 ชิ้น ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์สร้างจุดทิ้งกว่า 2,400 จุดทั่วประเทศ