จังหวัดสงขลา - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ติดตามความสำเร็จโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในชุมชน
พร้อมมอบหมาย ดีป้า เร่งจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลจากดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย
เพื่อเป็นส่วนช่วยในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รองรับชีวิตวิถีใหม่ พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
ก่อนก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ต่อไป
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
หรือ ดีป้า ลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จของ โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีในการเฝ้าระวังพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ของ สมาคมประมงพื้นบ้านชายฝั่งอ่าวไทยอำเภอสทิงพระ ในจังหวัดสงขลา
ที่ประยุกต์ใช้ระบบติดตามเรือประมง (GPS Tracker) จำนวน 20 ลำ ซึ่งผสมผสานระหว่างจุดพิกัดบอกตำแหน่งด้วยดาวเทียม (GPS) ร่วมกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายตามแผนปฏิบัติการสากลว่าด้วยการป้องกัน
ยับยั้ง และขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดยสามารถลดต้นทุนในการทำประมง
และเพิ่มรายได้เฉลี่ย 20%
ชัยวุฒิ
เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลฯ
มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน
รวมไปถึงภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ชุมชน และสังคม ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ
รองรับชีวิตวิถีใหม่ (New
Normal) พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
ก่อนก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ (Smart City)
โดยหนึ่งในกลไกสำคัญคือ กิจกรรมส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบ
(Smart Economy Showcase) จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดโดย ดีป้า
ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ร้านค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย ได้พบกับดิจิทัลสตาร์ทอัพ
พร้อมรับคำปรึกษา เรียนรู้วิธีการใช้งาน
และเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้
ดีป้า เร่งจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้
และได้มาตรฐานจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยที่ขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital
Provider) กับ ดีป้า เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการขับเคลื่อนของทีมงาน
ดีป้า สาขาภาคใต้ตอนล่าง ที่ปักหมุดพร้อมให้คำปรึกษา แนะนำในจังหวัดสงขลา
ด้าน ดร.ณัฐพล
กล่าวว่า นอกเหนือจากโครงการข้างต้นแล้ว ดีป้า
ยังคำนึงถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกษตรกรทั่วประเทศกำลังประสบ
โดยเฉพาะฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วม ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย
ยังผลให้ราคาพืชผักสูงขึ้น ซึ่ง ดีป้า ได้ส่งเสริมให้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหม่อนผลแปรรูปกลุ่มใต้ร่มบุญ
ในอำเภอหาดใหญ่ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Smart Farm ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกนอกฤดูกาล
ลดปัญหาราคาพืชผลสูง อันเนื่องมาจากผลผลิตขาดตลาด สร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรกว่า
20% หรือคิดเป็นมูลค่า 99,504 บาทต่อปี อีกทั้งช่วยลดต้นทุน
ไม่น้อยกว่า 15% คิดเป็นเม็ดเงินราว 16,992 บาทต่อปี
นอกจากนี้ ดีป้า
ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ซีพีเอส เวเธอร์ จำกัด และ บริษัท ซีพีเอส อะกริ จำกัด
พัฒนาแอปพลิเคชัน ‘ฟ้าฝน’ ผู้ช่วยพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วัน
ซึ่งผู้ใช้งานสามารถดูความเคลื่อนไหวของสภาพอากาศผ่านดาวเทียมที่มีความละเอียดและแม่นยำ
พร้อมตั้งค่าเพื่อรับการแจ้งเตือนพายุ ฝน ลม
และความเปลี่ยนแปลงฉับพลันของอุณหภูมิได้แบบรายแปลง รายพิกัด
เพื่อนำมาวางแผนป้องกันและรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
“ดีป้า
พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลารวมถึงจังหวัดอื่น
ๆ ทั่วประเทศในการขับเคลื่อนจังหวัดสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่
โดยส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ
และผ่านการทดสอบความเป็นไปได้จริง (Proof of Concept: POC) มาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาของเมือง
ตอบสนองความต้องการของประชาชน พัฒนาเมืองตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลเมือง (City Data Platform) เพื่อนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของภาคประชาชนอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการใหญ่
ดีป้า กล่าว