หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เผยโฉม HUAWEI Health Lab ศูนย์รวมการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และสมาร์ทดีไวซ์เกี่ยวกับสุขภาพแห่งใหญ่ที่สุดอย่างเป็นทางการ ณ ทะเลสาปซงชาน เมืองตงกวน ประเทศจีน โดยศูนย์วิจัยใหม่นี้มีพื้นที่ทั้งหมด 4,680 ตารางเมตร นับเป็นเงินลงทุนด้านการค้นคว้าวิจัยกว่า 200 ล้านหยวน (มากกว่า 1 พันล้านบาท) รองรับการทดสอบกว่า 80 ประเภท อาทิ การค้นคว้าขั้นสูง การพัฒนาอีโคซิสเต็ม การจำลองสถานการณ์เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย ซึ่งเอื้อต่อการสร้างสรรค์และทดสอบสมาร์ทดีไวซ์สำหรับสวมใส่สุดอัจฉริยะของหัวเว่ย
ในปัจจุบันหัวเว่ยได้เปิดศูนย์วิจัยด้านสุขภาพ (Health Lab) จำนวนมากเพื่อศึกษาเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพ รวมไปถึงห้องแล็บในซีอานที่มุ่งเน้นไปยังการวิจัยกรณีศึกษาล้ำสมัยต่างๆ สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะให้ HUAWEI Health Lab สาขาทะเลสาปซงชานนี้ เป็นสถาบันการค้นคว้าและวิจัยระดับโลกทางด้านสุขภาพและสมรรถภาพทางกายที่ทุ่มเทเพื่อการวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การสร้างมาตรฐาน การรับรองคุณภาพ การจัดแสดงนวัตกรรม และกิจกรรมบ่มเพาะเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมสมาร์ทดีไวซ์ทางสุขภาพ
สำหรับช่วงปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้รุกตลาดสมาร์ทดีไวซ์สำหรับสวมใส่ทั้งในกลุ่มหูฟังไร้สาย
และนาฬิกาสมาร์ทวอทช์มากมายมาตอบสนองความต้องการด้านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค
โดยล่าสุดได้เปิดตัว HUAWEI WATCH GT 3 Series สมาร์ทวอทช์ที่โดดเด่นในด้านอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง
14 วัน[1]
และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพทั้งเทคโนโลยีวัดค่าต่างๆ ของร่างกาย[2] อาทิ HUAWEI TruSeen™ 5.0+ ที่ใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
และการวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) รวมไปถึงฟีเจอร์ช่วยฝึกซ้อมร่างกายอย่าง
Intelligent
Dynamic Adjustment Plan และการประมวลผลการวิ่ง Running
Ability Index (RAI) โดยมีรุ่นย่อยพิเศษคือ HUAWEI WATCH GT Runner สำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ
เปิดบ้าน HUAWEI Health Lab
หัวเว่ยได้นำเสนอผลการค้นคว้าที่ผ่านมาเกี่ยวกับสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย
ด้วยการนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์วิจัยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆ
ที่ศูนย์วิจัยของหัวเว่ยได้ดำเนินการเพื่อศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ
มาเพื่อตอบสนองตลาดสมาร์ทดีไวซ์
โครงการหนึ่งที่นำเสนอในงานได้ใช้ห้องแล็บพื้นที่ราบสมมติ มูลค่า 3 ล้านหยวน (มากกว่า 15,000 ล้านบาท) เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมบนที่สูงถึง 6,000 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพื่อทดสอบว่าระดับออกซิเจนส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร โดยในห้องแล็บจะมีพื้นที่ทำงานให้นักวิจัยสามารถวัดค่าความเปลี่ยนแปลงในร่างกายมนุษย์ในพื้นที่ความสูง และสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เพื่อประมวลผลข้อมูลในการนำไปวิเคราะห์ต่อไป
แล็บนี้ยังมีระบบเทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวประเภทเชิงแสง (Optical motion
system) แบบมืออาชีพที่ประกอบด้วยกล้องอินฟาเรดความเร็วสูงกว่า 28
ตัว รองรับช่วงจุดสูงสุดที่อัตรา 10,000 Hz ทำให้บันทึกภาพได้ครอบคลุมรวมถึงบันทึกการเคลื่อนไหวของกระสุนปืนด้วยความแม่นยำที่ระดับมิลลิเมตร
โดยการศึกษาการเคลื่อนไหวของร่างกายมนุษย์ควบคู่กับข้อมูลด้านความสูง กับเป้าหมายของหัวเว่ยที่จะพัฒนาและสร้างนวัตกรรมเพื่อสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์สวมใส่
ในส่วนของพื้นที่การวิจัยสรีรวิทยาการออกกำลังกายยังประกอบไปด้วยอุปกรณ์สำหรับการใช้งานกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เครื่องวัดระบบการเผาผลาญ เข็มขัดวันอัตราการเต้นหัวใจ และลู่วิ่งคุณภาพสูงเพื่อให้นักวิจัยได้ใช้ระบบการตรวจจับ เช่น เครื่องมือการวัดค่าการใช้ออกซิเจนของร่างกายเมื่อออกกำลังอย่างเต็มกำลังถึงที่สุด (VO2 max) จำนวนแคลอรี่ที่บริโภคเข้าไป และอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย จนถึงวันนี้ ห้องแล็บแห่งนี้ได้รวบรวมข้อมูลการวิ่งไประยะทางกว่า 192,500 กิโลเมตร เทียบเท่ากับระยะทางของเส้นศูนย์สูตรโลกกว่า 4 รอบครึ่ง แล็บนี้ยังช่วยพัฒนากลุ่มอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของหัวเว่ยให้รองรับการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด รวมไปถึงการปีนเข้า การว่ายน้ำ การตีปิงปอง การตีกอล์ฟ และกีฬาที่มีหลากหลายการใช้งาน
พื้นที่เพื่อบ่มเพาะสุขภาพและร่างกาย เพื่อสุขภาพในทุกแง่มุม
ศูนย์วิจัยด้านสุขภาพหัวเว่ย (HUAWEL Health Lab) ยังคงมุ่งที่จะเป็นแหล่งบ่มเพาะให้กับประสบการณ์และการบริการแบบ Scenario-oriented เป็นหลักที่ผู้บริโภคสามารถสนุกกับประสบการณ์เหล่านั้นได้โดยตรง ซึ่งจะรวมไปถึงการตรวจสอบด้านกายภาพในระดับจุลภาค การออกกำลังกายภายในบ้านหรือโฮมฟิตเนส และการเล่นกีฬาแบบดิจิทัล
ในส่วนของบริเวณห้องแล็บการตรวจสอบด้านกายภาพในระดับจุลภาคนั้น
ผู้ใช้บริการสามารถใช้อุปกรณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์สวมใส่ เพื่อวัดค่าต่างๆ
ในด้านกายภาพได้ อาทิ ค่าความดันเลือด ค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2)[3]
ในส่วนของพื้นที่การออกกำลังกายในร่มนั้น
ผู้ใช้บริการสามารถติดตามการออกกำลังกายของตนเองได้ด้วยการเชื่อมต่อหัวเว่ยสมาร์ทวอชท์
หัวเว่ย วิชั่น (HUAWEI Vision) และอุปกรณ์จากแหล่งอื่นๆ ได้
และในส่วนของพื้นที่การเล่นกีฬาแบบดิจิทัล ผู้ใช้บริการสามารถสนุกไปกับการแข่งขันกับเพื่อนขณะเล่นเครื่องกรรเชียงบก
หรือเครื่องปั่นจักรยาน โดยภายในแอปพลิเคชัน HUAWEI Health App ยังมีบริการออกกำลังกายอีกกว่า 11 ประเภท เช่น
การวิ่ง การปั่นจักรยาน โยคะ ฟิตเนส กระโดดเชือก และอื่นๆ อีกมากมาย
หัวเว่ยได้ลงทุนอย่างมากมายเพื่อการวิจัยสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ มีผู้ใช้มากกว่า 5
ล้านรายที่ได้เข้าร่วม HUAWEI Research Program นี้ และมีผู้ใช้กว่า 320 ล้านรายที่ได้ประโยชน์จากบริการด้านสุขภาพและฟิตเนสจากหัวเว่ย
ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ HUAWEI Health App เป็นประจำต่อเดือนทั่วโลกโดยเฉลี่ยกว่า
83 ล้านราย
นโยบายการปกป้องความเป็นส่วนตัวของหัวเว่ยได้ย้ำชัดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้บริโภคได้รับ
ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้ปิดกั้นหน่วยงานภายนอกในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หากไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนจากผู้บริโภคก่อน
และยังขอให้หน่วยงานภายนอกรวมไปถึงระบบนิเวศอื่นๆ ของหน่วยงานนั้นปฏิบัติและยึดมั่นในมาตรการความเป็นส่วนตัวและระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดอีกด้วย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว
เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery
ข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่:
Website: http://consumer.huawei.com/th
Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
LINE:
HuaweiMobileThailand, IG: Huawei.TH
[1]
จากการทดสอบจากห้องทดลองของหัวเว่ย
ระยะเวลาการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสินค้า
พฤติกรรมการใช้งานและสภาพแวดล้อมอื่นๆ
[2] ข้อมูลการตรวจวัดไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัยรักษาหรือป้องกันโรคหรือภาวะใดๆ
แต่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการออกกำลังกายโดยทั่วไปเท่านั้น
[3]
ข้อมูลการตรวจวัดไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัยรักษาหรือป้องกันโรคหรือภาวะใดๆ
แต่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการออกกำลังกายโดยทั่วไปเท่านั้น