ดิวีเยช วิทลานี่ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอคเซนเชอร์, ผยง ศรีวณิช (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และจักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท Arise by Infinitas
“กรุงไทย”สยายปีกขยายธุรกิจ ส่ง“อินฟินิธัส” ผนึก“เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์” บริษัทเทคโนโลยีชั้นนาระดับโลก ตั้งบริษัทร่วมทุน “Arise by Infinitas” สร้างอัจฉริยะสายพันธุ์ดิจิทัล หรือ “Digital Talents” รองรับแผนขยายธุรกิจของกรุงไทย อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในไทยและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างมูลค่ากิจการ 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี
กฤษฎา จีนะวิจารณะ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกาลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างชัดเจน จากความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทางการเงินของภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ระบบพร้อมเพย์ คิวอาร์โค้ด การขับเคลื่อนโครงการภาครัฐผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ร่วมกับธนาคารกรุงไทย รวมถึงการนาเทคโนโลยีบล็อกเชนมายกระดับการบริการภาครัฐ เช่นระบบการคืนภาษีนักท่องเที่ยว และการขายพันธบัตรภาครัฐ ซึ่งล้วนมีส่วนทาให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เรียนรู้และเข้าถึงบริการการเงินดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนาพาประเทศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลหลังจากนี้ การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ถือเป็นความท้าทาย เพราะประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี สะท้อนจากผลศึกษาปี 2564 ของ OECD พบว่า ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานระดับผู้เชี่ยวชาญมากกว่าประเทศในกลุ่ม OECD โดยเฉพาะในภาคการเงิน ขณะที่แรงงานที่เพิ่งจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์มีเพียง 21% ต่ากว่าประเทศพัฒนาแล้ว และต่ากว่าความต้องการแรงงานในด้านนี้ที่มีสูงถึง 41% ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงไทย โดยอินฟินิธัส บาย กรุงไทย และ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จากัด ในการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จึงเป็นก้าวสาคัญที่จะมาปิดช่องว่างนี้ พร้อมทาให้เศรษฐกิจไทยเดินไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน
ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น ครอบคลุม 5 ecosystems หลัก ผ่านการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งระบบปิดและระบบเปิด หรือ แอปฯเป๋าตัง ที่เป็น Thailand Open Digital Platform ได้รับการพัฒนาโดยอินฟินิธัส บาย กรุงไทย ทาให้ธนาคารสามารถเข้าถึงคนไทยกว่า 50 ล้านคนและร้านค้ากว่า 1.5 ล้านร้านค้า โดยธนาคารและอินฟินิธัส พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านดิจิทัลที่มีความเชี่ยวชาญและหลากหลาย ยึดหลัก “One unite goal as a F1 Team” ภายใต้การคิดแบบนอกกรอบ ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนาในระดับโลก จึงได้จัดตั้งบริษัท Arise เพื่อเพิ่มศักยภาพและทรัพยากรบุคคลทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลโดยเฉพาะ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนาในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ Technology Disruption และการระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ทุกภาคส่วนก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ภาคตลาดเงินและตลาดทุน เกิดบริการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ภาคเอกชน และซื้อขายทองคา ผ่านช่องทางดิจิทัล แบบครบวงจร เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงการออมและการลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้นซึ่งในระยะ ถัดไปจะเห็นประเทศเร่งพัฒนาตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจา เป็นต้องมีบุคลากรที่มี ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เพียงพอ การเปิดตัวบริษัท Arise จึ งเป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศในการ สร้าง word-class talents มาร่วมพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ สร้างกลไกตลาดการ จั ดสรรทรัพยากรเงิ นทุนให้เข้าถึงได้ทุกคน บนต้นทุนที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้า สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจได้อย่างมี ประสิทธิภาพและยั่งยืน
ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ ภายใต้บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จา กัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารที่เปรียบเสมือนเรือเร็ว (Speed Boat) ในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลในอนาคต โดยเปิดกว้างเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนา ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด อินฟิ นิธัสจับมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จา กัด ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนา ระดับโลก (Global Technology Firm) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ “Arise by Infinitas” ในสัดส่วน 51% : 49% ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้าน บาท เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ รองรับการขยายธุรกิจของ ธนาคาร อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนของแอคเซนเชอร์ กับกลุ่มสถาบันการเงินเป็นครั้งแรกในเอเชีย
บริษัท Arise by Infinitas ตั้งเป้าดา เนินธุรกิจด้วยแนวทาง TechFin เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรรองรับการ เปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านนวัตกรรมทางการเงิน และการพัฒนาบุคลากร โดยมุ่งพัฒนาโครงการ และโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะเร่งให้ธนาคารกรุงไทยสามารถปรับกระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้เป็นดิจิทัล (Digitization) และ ปรับไปสู่Cloud-centric Model ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคของธนาคาร ในระยะยาว โดยบริษัท Arise by Infinitas ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีมาตรฐาน มีประสบการณ์การทา งาน ระดับ World class ด้ วยการสร้างฐานบุคลากรในประเทศ และดึงกลุ่ม Technology Talents จากต่างประเทศมาร่วมงาน พร้อมมีแผนจัดตั้ง Virtual Office ในอีกหลายประเทศ โดยคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีมูลค่ากิจการสูงถึง 20,000 ล้านบาท
“จากการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในสาขาต่างๆ ทา ให้บุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญขาดแคลนใน ตลาดแรงงาน ทั้งในและต่างประเทศ และมีการแย่งชิงตัวกันสูงมาก ซึ่งบริษัท Arise by Infinitas จะเข้ามาปิดช่องว่างในการ พัฒนาคน เป็นองค์กรเป้าหมายที่คนรุ่นใหม่ รวมถึง Digital Talents อยากมาร่วมงานด้วย เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้าน Digital Capabilities ให้กับกลุ่มธนาคารกรุงไทย รองรับการเติบโตตามแผนธุรกิจ พร้อมสร้างอัจฉริยะด้านดิจิทัล (Digital Talents) ช่วยพัฒนา Digital Platforms ให้ประเทศ รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในไทยและต่างประเทศ”
สำหรับทิศทางของ Arise by Infinitas ที่จะมุ่งไป ประกอบด้วย Agility การสร้างความคล่องตัวในองค์กร เพื่อ รองรับธุรกิจในอนาคต รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ Reliablity การสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อเปิดโอกาสสังคมไทย Innovation การสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้า ทุกกลุ่ม Stability การสร้างผลงานที่มีเสถียรภาพและมอบประสบการณ์ที่ดีให้ทั้งลูกค้าและพนักงาน Equality การสร้าง ความเท่าเทียม ความเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อบรรลุเป้าหมาย
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัทเอคเซนเชอร์ ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนา ระดับโลก จะ สนับสนุนการดา เนินงานของบริษัท Arise ทั้งการ Set Up องค์กรให้ดึงดูด Talents จากทั่วโลก ตอบโจทย์ทั้งด้านการเติบโต ในอาชีพ ความท้าทาย และทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง พร้อมวางแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการ การสร้างแพลตฟอร์มและโปรแกรม การพัฒนาบุคลากร โดยมองถึงทักษะที่สา คัญและเป็นที่ต้องการสา หรับเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต เชื่อมั่นว่า บุคลากรของ Arise จะมีศักยภาพเทียบเท่าองค์กรชั้นนา ในระดับโลก สามารถสร้าง Impact ต่อกลุ่มธนาคารและการพัฒนาด้านดิจิทัล ของประเทศ
ดิวีเยช วิทลานี่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจา ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอคเซนเชอร์ เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์การทา ธุรกรรมที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่ายให้กับลูกค้า โดยปัจจัยสา คัญที่จะทา ให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างรวดเร็วได้ คือ Digital Transformation ซึ่งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่หลากหลายของเอคเซนเชอร์จะช่วยให้ธนาคารสามารถ พัฒนาต่อยอดนวัตกรรมดิจิทัล สร้างบุคลากรอัจฉริยะด้านดิจิทัล และเติบโตก้าวนาตลาดได้ ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นข้อ พิสูจน์ถึงการสร้างคุณค่าแบบ 360 องศาให้กับลูกค้าของเรา เป็นประโยชน์ทั้งกับลูกค้า รวมถึงลูกค้าของคู่ค้า และพนักงาน คู่ค้า ในประเทศไทยและในภูมิภาค
ทั้งนี้ บริษัทเอคเซนเชอร์และธนาคารกรุงไทย เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน ร่วมสร้างนวัตกรรมและพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ส่งเสริมให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง เช่น แอปพลิเค ชันเป๋าตัง ที่ช่วยให้รัฐบาลสามารถส่งมอบความช่วยเหลือในช่วงวิกฤตโควิด-19 ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ โปร่งใส รวมถึงช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และการลงทุนต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้น
ข้อมูล บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จากัด
บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จา กัด (Infinitas by Krungthai) จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ตามยุทธศาสตร์ คู่ขนาน หรือ 2 Banking Model ของธนาคารกรุงไทย ภายใต้รูปแบบ การขับเคลื่อนธุรกิจแบบใหม่ (Digital Organization) ซึ่งเปรียบเสมือนเรือเร็ว (Speed Boat) ของธนาคารในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ (New Business Model) โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ผ่านมา อินฟินิธัสมีผลงานที่โดดเด่ นในการ พัฒนาแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้เป็น Thailand Open Digital Platform สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการภาครัฐผ่าน “G Wallet” ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ม.33 เรารักกัน และยิ่งใช้ยิ่งได้ ตอบโจทย์บริการด้านสุขภาพทั้งการ ตรวจเช็คสิทธิและจองใช้สิทธิด้านสุขภาพร่วมกับสปสช.ผ่าน “กระเป๋าสุขภาพ” หรือ “Health Wallet“ ปฎิวัติการลงทุน พันธบัตรรัฐบาลผ่าน “วอลเล็ต สบม.” ทา ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท พลิกโฉมการลงทุนทองคา ออนไลน์ครบวงจรเป็นครั้งแรกในไทยผ่าน “Gold Wallet” เปิดให้ลงทุนหุ้นกู้ดิจิทัล ภาคเอกชนบนวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในเอเชีย ผ่านบริการ “ซื้อขายหุ้นกู้” บนเป๋าตัง ซื้อง่าย ขายง่าย ได้ทันที ด้วยบริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ ทา ให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังแล้วมากกว่า 33 ล้านคน