Verizon ประกาศการขยายเครือข่ายทะลุเป้า เมื่อจบปีนี้ ทะลุ 14,000 จุด บนเครือข่าย 5G Ultra Wideband ส่งผลให้ครอบคลุม 87 เมืองใน U.S. ในขณะที่บริการ 5G Home ครอบคลุม 65 เมือง และ 5G Business ให้บริการครอบคลุม 62 เมือง รวมไปถึง Atlanta, Chicago, Los Angeles และใช้บริการได้ที่ Athens, GA; Knoxville, TN และ Tacoma, WA ถือเป็นการขยายเครือข่ายที่รวดเร็ว รองรับบริการ 5G Ultra Wideband ที่มีการใช้งานดาต้าสูงขึ้นมากว่า 750% ก่อนหน้านี้มีการปรับใช้คลื่น C-Band ในเชิงพาณิชย์ ครอบคลุมการให้บริการลูกค้า 100 ล้านราย ก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2022
โดยในปีนี้ ได้ติดตั้ง 5G เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา และเกินเป้าหมายเชิงรุกที่เราได้ตั้งไว้เมื่อต้นปี แม้จะเผชิญกับปัญหาขาดแคลน Supply ทั่วโลก
นอกจากบริการ 5G Ultra Wideband แล้ว Verizon ยังให้บริการ broadband ผ่านบริการ 5G Home เติบโต 5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2020 และ 5G Business Internet ให้บริการครอบคลุม 3 เท่า ของเมืองที่คาดไว้ในปี 2021 ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์ ทำให้ทั้งบริการ FIOS, 5G Home หรือ LTE Home Internet ครอบคลุมประชากรทุกคน
สิ่งที่ Verizon มุ่งมั่น คือเน้นติดตั้งอุปกรณ์บนคลื่น C-band ขับเคลื่อน 5G บนคลื่น C-band โดยพัฒนาอุปกรณ์ 5G Ultra Wideband ให้ครอบคลุม cell site กว่าพันแห่ง และไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อเนื่องในปีใหม่นี้เพื่อให้ 5G Ultra Wideband ตอบสนองผู้คน 100 ล้านรายในไตรมาสแรกของปี 2022 บนคลื่น C-Band
โดยมีการพัฒนาเครือข่ายด้วย 5G Ultra Wideband กับอุปกรณ์ C-Band บน macro cell tower เป็นการใช้ 5G Ultra Wideband โดยใช้ small cell บน 5G โดยใช้คลื่น C-band
นอกจากการขยายบนคลื่น C-Band แล้ว Verizon ยังขยาย 5G Ultra Wideband บนคลื่น mmWave และ private network ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
สิ่งที่ได้คือสปีด ทะลุขีดจำกัดของ 5G โดยทดสอบบนความถี่ 100MHz และ 200Mhz บนคลื่น C-band ให้ความเร็ว 1.5 Gbps และ 3 Gbps ตามลำดับ และใช้ Carrier Aggregation (800 MHz บน mmWave และ 100 MHz บน C-band) และทดสอบอุปกรณ์บน Snapdragon ® X65 5G Modem-RF ของ Verizon และ Qualcomm ทะลุสปีดดาวน์โหลด 7.92 Gbps
