บรรยากาศคึกคัก!! เมื่อประเทศมาเลเซียเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงข่ายแรกที่ให้บริการ 5G ในย่านความถี่ 3.5 GHz โดยเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตไม่จำกัดข้อมูล สามารถใช้งานถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 บนโครงข่ายของ Digital Nasional Berhad ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่สร้างขึ้นเพื่อดูแลโครงสร้างพื้นฐานของชาติผ่านโครงข่ายที่มีชื่อว่า Yes หากซื้อตรงมีการให้บริการแบบเติมเงินและรายเดือน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผู้ให้บริการ Yes ในระบบเติมเงิน แผนที่ประหยัดสุดคือ Yes Prepaid FT5G Unlimited ซึ่งมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ RM30/เดือน สามารถใช้ข้อมูล 4G ไม่จำกัดบนความเร็ว 7 Mbps และเน็ต 5G ไม่อั้น รวมถึง WiFi จำนวน 9GB โทรฟรีไม่จำกัดโครงข่าย

หากเป็นแผนรายเดือนที่ไม่มีสัญญาณค่าเครื่อง Yes Postpaid FT5G plan ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ RM49/เดือน เสนอข้อมูล 4G ขนาด 100GB ความเร็วแบบไม่จำกัด โทรฟรีไม่จำกัดโครงข่าย

หากมีสัญญาที่ผูกติดกับโครงข่ายค่าใช้จ่ายโดยประมาณ RM99/เดือน ใช้ 4G ไม่อั้นขนาด 250GB คุณยังโทรได้ไม่จำกัดทุกเครือข่าย โดยมีอุปกรณ์ที่รองรับย่านความถี่ 5G ย่าน 3.5 GHz ทั้งหมด 13 รุ่นตั้งแต่ Xiaomi, Realme, Vivo, Nokia และ Oppo อุปกรณ์ทั้งหมดเชื่อมโยงกับสัญญา 24 เดือน และคุณสามารถรับ Xiaomi 11 Lite 5G NE, Vivo Y76 5G, Vivo V23e 5G, Nokia X20 5G และ Oppo A74 5G ในราคา RM0

ด้านการให้บริการด้วยเสียง จะยังคงต้องใช้บริการผ่านโครงข่าย 4G ต่อไป ซึ่งบริการ 5G ใช้เฉพาะการใช้บริการระบบอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เมื่อผู้ใช้งานโทรออกเสียงจะใช้เทคโนโลยี Voice over LTE (VoLTE) ซึ่งหมายความว่าการเชื่อมต่อของคุณจะเปลี่ยนเป็นเครือข่าย 4G ส่วนการใช้บริการ Voice over 5G New Radio (VoNR) กำลังเตรียมเปิดให้บริการในอนาคต

การใช้บริการของ YES ใช้ย่านความถี่ 3.5 GHz ซึ่งรองรับโดยอุปกรณ์ 5G ส่วนใหญ่ในตลาด แต่ยังมีบางรุ่นที่ต้องอัพเดทซอฟแวร์เพิ่มเติมถึงใช้งานได้ เช่น iPhone 12, iPhone 13, Samsung Galaxy Z Fold 3, Galaxy Z Flip 3, Galaxy S20 FE 5G และ Galaxy Note 20 Ultra 5G ยังไม่รองรับในตอนนี้

พื้นที่ในการให้บริการส่วนใหญ่อยู่ที่ไซเบอร์จายา ปุตราจายา และกัวลาลัมเปอร์ โดยครอบคลุ่มพื้นที่กลางแจ้งก่อน. หากไม่สามารถใช้งาน 5G ย่าน 3.5 GHz ได้ ผู้ใช้งานมีโครงข่าย 700 MHz ซึ่งมุ่งเน้นเป็นการให้บริการ 4G ซึ่งครอบคลุ่มพื้นที่การให้บริการก่อน

โดยปีนี้ทางโครงข่ายฯ เร่งปรับปรุงความเร็วจาก 100 Mbps เป็น 514Mbps โดยตั้งเป้าให้ครอบคลุม 10% ของประชากรทั้งหมด 500 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ส่วนปีหน้าปี 2565 มีเป้าหมายที่จะครอบคลุมพื้นที่ 40% ของประชากรซึ่งรวมถึงปีนัง ยะโฮร์ ซาบาห์ ซาราวัก สลังงอร์ เนเจอรี เซมบิลัน และเปรัค ในท้ายที่สุด เป้าหมายหลักของพวกเขาคือการบรรลุความครอบคลุม 80% ภายในสิ้นปี 2567 หน้าเตรียมให้บริการ

Reuters ระบุถึงการให้บริการดังกล่าวทางรัฐบาลให้ขายส่งความจุโครงข่ายเพื่อทำให้เกิดการแข่งขันภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นการให้บริการ 5G นอกจากผู้ให้บริการรายหลักที่มีโครงข่ายของต้นเองอย่าง Celcom, Digi, Maxis และ U Mobile ที่สำคัญการมีโครงข่ายกลางถือเป็นการรักษาความปลอดภัยระดับประเทศ

ข่าวดังกล่าวอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่าตัวแทนจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 6 รายของประเทศ ( รวม MVO ) ได้พบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อเสนอวิธีแก้ปัญหาการให้บริการ 5G พบว่า Celcom, DiGi.com, Maxis และ U Mobile ของ Axiata Group ต้องการให้มีการขายส่งความจุโครข่ายระหว่างกันได้ เพื่อทำให้การเปิดให้บริการ 5G ครอบคลุ่มพื้นที่ได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งขัดกับรัฐบาลที่ต้องการรวมเป็นโครงข่ายเดียวทั่วประเทศ ในขณะนี้ทางผู้ให้บริการทั้ง 6 รายได้เซ็นสัญญาความจุโครงข่ายระยะสั้นถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น ซึ่งต้องรอการเปิดสัญญาระยะยาวต่อไป

 ข้อมูล soyacincau lightreading