21 ธ.ค. 2564 1,031 2

AIS 5G แท็กทีม พนัส แอสเซมบลีย์ และ เอ็ม เอส ไอ จี เปิดตัว ‘พนัสแคร์’ ประกันภัยรถใหญ่เชิงพาณิชย์แนวใหม่ ใช้อุปกรณ์อัจฉริยะวัดพฤติกรรมการขับ จุดเด่น ขับดีรับเบี้ยประกันคืน ย้ำมาตรฐาน InsurTech

AIS 5G แท็กทีม พนัส แอสเซมบลีย์ และ เอ็ม เอส ไอ จี เปิดตัว ‘พนัสแคร์’ ประกันภัยรถใหญ่เชิงพาณิชย์แนวใหม่ ใช้อุปกรณ์อัจฉริยะวัดพฤติกรรมการขับ จุดเด่น ขับดีรับเบี้ยประกันคืน ย้ำมาตรฐาน InsurTech

จากความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ส่งผลให้หลากหลายอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัว ผ่านการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ซึ่งไม่เพียงแต่ความสะดวกสบาย แต่ยังสร้างทางเลือกที่คุ้มประโยชน์ให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในนั้น คือ ธุรกิจประกันภัย โดยล่าสุดทาง พนัส แอสเซมบลีย์ ผู้นำตลาดผลิตรถบรรทุกเพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์ พร้อมด้วย เอ็ม เอส ไอ จี ผู้นำด้านประกันวินาศภัย และ AIS 5G ร่วมกันผนึกกำลังเปิดตัว ‘พนัสแคร์’ ประกันภัยรถใหญ่เชิงพาณิชย์แนวใหม่ที่เข้ามาฉีกกฎเดิมๆ ของประกันภัยด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาวัดผลพฤติกรรมผู้ขับขี่ จากนั้นประมวลผลและมอบประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้ขับขี่สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยเมื่อครบปีกรมธรรม์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีขึ้นรวมทั้งสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนในอนาคตต่อไป


สุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้จัดการทั่วไป ด้านการบริการดิจิทัล AIS อธิบายว่า “AIS โดย AIS Insurance Service ในฐานะผู้นำด้าน Digital Life Service Providerที่เน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับอุตสาหกรรมประกันภัย ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยร่วมมือกับเอ็ม เอส ไอ จี มาแล้วในโครงการประกันขับดีหรือประกันภัยรถยนต์ในรูปแบบ Usage-Based Insurance (UBI) ที่คิดเบี้ยประกันภัยตามการใช้จริง โดยนำเอาเทคโนโลยี IoT มาตรวจวัดพฤติกรรมการขับขี่ผ่านสัญญาณโครงข่ายของเอไอเอส ก่อนที่จะประมวลผลเข้าสู่ระบบ Cloud  ของเอ็ม เอส ไอ จี เพื่อคำนวณค่าเบี้ยประกันภัยได้ตรงตามพฤติกรรม จึงเป็นที่มาของการส่งต่อความร่วมมือไปยัง พนัส แอสเซมบลีย์ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตรถพ่วงและกึ่งพ่วง ที่กำลัง Transform องค์กร โดยผสมผสาน Digital เข้ามาในกระบวนการทำงาน เพื่อใช้จุดเด่นจากทั้ง 3 บริษัท พัฒนาประกันภัยสำหรับรถใหญ่เชิงพาณิชย์หรือ ‘พนัสแคร์’ นั่นเอง”


พนัส วัฒนาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด กล่าวว่า พนัส แอสเซมบลีย์ดำเนินธุรกิจผลิตรถพ่วงและกึ่งพ่วงมานานเกือบ 50 ปีแล้ว และเราเป็นเบอร์ ของธุรกิจนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ อาทิ Panus GPS Tracker สำหรับบอกพิกัดและสามารถเก็บค่าพฤติกรรมการขับรถในเชิงลึกคือ ระยะทางต่อวัน (กิโลเมตร) ความเร็วสูงสุดต่อวัน (กม./ชม.) เพื่อให้ลูกค้าของพนัสเกิดความสะดวกสบายในการใช้งาน


ด้าน รัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า นี่คือการขยายผลที่สำคัญจากประกันขับดีที่ได้ร่วมมือกับทางเอไอเอสที่ผ่านมา และในครั้งนี้เราได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่กับกลุ่มรถใหญ่เชิงพาณิชย์อย่าง พนัสแคร์’ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนช่วยคิดเบี้ยประกันภัยให้มีความเป็นธรรมมากที่สุด เพื่อนำส่งเบี้ยประกันคืนให้กับผู้เอาประกันภัยที่มีพฤติกรรมการใช้รถที่ดีจริงๆ

สำหรับ ประกันภัยพนัสแคร์เป็นประกันขับดีรูปแบบใหม่สำหรับรถใหญ่เชิงพาณิชย์ที่ให้รางวัลสำหรับผู้ขับรถบรรทุกดี ด้วยการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมกรณีขับดีสูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยเมื่อครบปีความคุ้มครอง โดยการคำนวณพฤติกรรมการขับขี่นั้นจะใช้จาก‘Panus GPS Tracker’ ผ่านโครงข่ายสัญญาณเอไอเอสไปยังระบบ Clouds Server ของ TOD  ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Panus Group และส่งค่าผ่านมายัง Server ของเอ็ม เอส ไอ จี โดยมีการแสดงผลให้ผู้เอาประกันภัยทราบผ่าน Panus Mobility Dashboard  ทางเอ็ม เอส ไอ จีจะนำข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรอบ ปี มาประมวลผลร่วมกับอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) เพื่อคำนวณการผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อสิ้นสุดปีกรมธรรม์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะได้รับ Tracker รุ่น MBT1 เพื่อติดที่หัวลาก และ Smart Trailer สำหรับหางพ่วง โดยให้ความคุ้มครองรถที่มีอายุตั้งแต่ 1-10 ปี ครอบคลุมความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อรถยนต์ คุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม

พนัส กล่าวเสริมต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายของพนัสแคร์คือผู้ประกอบการกลุ่มโลจิสติกส์ทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ อยู่แล้วและมีการเปิดใช้งาน GPS กับรถเทรลเลอร์อยู่ โดยเราจะนำเสนอพนัสแคร์เข้าไปเสริมทัพสร้างความอุ่นใจให้คนขับรถบรรทุกผ่านทีมงานขายมืออาชีพของพนัสที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งในปัจจุบันเรามีลูกค้าที่สนใจลงชื่อจองซื้อประกันพนัสแคร์แล้วเกือบ 5,000 ราย ส่วนเป้าหมาย เราตั้งเป้าปีแรกอยู่ที่ 10,000 กรมธรรม์ และ 50,000 กรมธรรม์ภายใน 3 ปี”

สุปรีชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ทั้ง บริษัทให้ความเชื่อมั่นในการใช้สัญญาณคุณภาพของเอไอเอสเพื่อส่งข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่จริง และขอให้คำยืนยันว่าเราจะมีการพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นล่าสุด AIS 5G ที่มีความแข็งแกร่งครอบคลุมสูงสุดแล้ว 77 จังหวัดทั่วไทย เพื่อช่วยส่งเสริมทั้งธุรกิจประกันภัยและธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้มีขีดความสามารถที่แข็งแกร่ง พร้อมต่อการแข่งขัน และรับมือกับความท้าทายได้อย่างแน่นอน”